fbpx
Mitsubishi Motors ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า สู่รถปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลก

Mitsubishi Motors ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า สู่รถปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลก

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ยังคงได้เดินหน้านำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานสู่การบุกเบิกตลาดและก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส

จากการดำเนินการวิจัยพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงได้ทำการเปิดตัว มิตซูบิชิ ไอ มีฟ (Mitsubishi i-MiEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์ มิตซูบิชิ ไอ มีฟ ขับเคลื่อนโดยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ สามารถคว้ารางวัล “รถยนต์ที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยีดีเด่น” (Most Advanced Technology) จากการประกาศรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2552 – 2553 ของญี่ปุ่น (2009-2010 Car of the Year Japan) พร้อมกับกวาดรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเมืองโอกาซากิ ใกล้กับจังหวัดนาโงย่า เพื่อพัฒนารถอเนกประสงค์เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยได้มีการนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากเทคโนโลยีของ มิตซูบิชิ ไอ มีฟ ซึ่งรวมถึงระบบปฏิบัติการที่ล้ำสมัย “มีฟ โอเอส” (MiEV OS) พัฒนาต่อยอดขึ้นเป็นยนตรกรรมต้นแบบ 

มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ พีเอ็กซ์ มีฟ (Mitsubishi Concept PX-MiEV) เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ โตเกียว มอเตอร์โชว์ ปี 2552 และตามมาด้วย มิตซูบิชิ คอนเซปต์ พีเอ็กซ์ มีฟ 2 (Mitsubishi Concept PX-MiEV II) ขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินการทดสอบระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดหรือพีเอชอีวีที่ติดตั้งในรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ เจนเนอเรชั่นที่สอง เป็นระยะทางหลายแสนกิโลเมตรอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งถึงงานปารีส มอเตอร์โชว์ ในปี 2555 โครงการดังกล่าวก็ได้รับการเปิดเผย เมื่อ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี (Mitsubishi Outlander PHEV) ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก

นับว่าเป็นรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่ผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีมอเตอร์คู่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โดดเด่นและเหนือกว่าเทคโนโลยีระบบปลั๊กอินไฮบริดของคู่แข่งอื่นๆ ด้วยโครงสร้างระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (คันเร่งไฟฟ้าและไม่มีชุดเกียร์) แทนที่จะเป็นการติดตั้งแบตเตอรี่และมอเตอร์บนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่เดิม

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คือเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน Super-All Wheel Control (S-AWC) อันเป็นเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ระบบขับเคลื่อน S-AWC พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีระบบขับเลื่อน 4 ล้อ ที่มีพัฒนาการมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี สั่งสมความสำเร็จจนได้รับรางวัลเกียรติยศต่างๆ จากสนามแข่ง ตั้งแต่ มิตซูบิชิ พีเอ็กซ์33 ปี 2479 ไปจนถึง มิตซูบิชิ ปาเจโร ปี 2525 รวมถึงชัยชนะจากการแข่งขันแรลลี่ระดับโลกอีก 12 สมัย

S-AWC ควบคุมการขับขี่และแรงเบรกของแต่ละล้อผ่านการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง รวมถึงล้อซ้ายและล้อขวา มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ไม่ใช้เพลากลางแบบดั้งเดิม แต่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ติดตั้งที่ด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบขับเคลื่อน S-AWC

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จึงมีความครบครันและพร้อมรองรับทุกการขับขี่ ซึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี อีกหนึ่งข้อคือการใช้แพลทฟอร์มรถอเนกประสงค์ที่มอบประโยชน์ใช้สอย รองรับทุกการใช้งาน และมีสมรรถนะสูง และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ โหมด “EV” ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและพลังงานจากแบตเตอรี่เท่านั้น โหมด “Series Hybrid” ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน และโหมด “Parallel Hybrid” ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมีมอเตอร์ช่วยทำงาน 

โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 ประเภท คือการชาร์จไฟฟ้าปกติด้วยระบบไฟ 230V 10A ใช้เวลา 5.5 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จไฟให้เต็มแบบปกติ ขณะที่การชาร์จไฟแบบควิกชาร์จ (CHAdeMO) ใช้เวลา 25 นาทีสำหรับการชาร์จไฟให้ถึงระดับร้อยละ 80% ซึ่งฟังก์ชั่นการชาร์จไฟแบบควิกชาร์จมีเฉพาะใน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เท่านั้น *สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในยุโรป

สำหรับความทนทานและอายุการใช้งาน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้ผ่านการทดสอบการขับขี่ระยะทางไกลในสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาวจัดเพื่อทดสอบความทนทานของแบตเตอรี่และมอเตอร์ โดยพบว่าชิ้นส่วนของระบบปลั๊กอินไฮบบริดยังทำงานได้ดีเมื่อผ่านการทดสอบที่ระยะทางรวม 300,000 กิโลเมตร

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ประสบความสำเร็จอย่างสูงและเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลกเมื่อสิ้นเดือนธันวาคมปี 2561 และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ประกาศว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มียอดจำหน่ายมากกว่า 200,000 คันแล้วทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ในปี 2556 จนถึงเดือนมีนาคมปี 2562 อีกทั้งยังครองตำแหน่งรถปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปเป็นระยะเวลาถึง 4 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2558

เป็นที่ชัดเจนว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เป็นมากกว่าเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในปัจจุบัน โดยปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวล้ำซึ่งพลิกโฉมการใช้งานยานยนต์ได้อย่างแท้จริง นอกจากจะเป็นเทคโนโลยีการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ยังตอบโจทย์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมได้แม้ขณะจอด ด้วยฟังก์ชั่นชาร์จและปล่อยประจุไฟฟ้า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จึงสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าสู่บ้านเรือน (V2H) และกลับคืนสู่โครงข่ายไฟฟ้า (V2G) ได้อีกด้วย

โดยการจ่ายพลังงานไฟฟ้าดังกล่าวสามารถช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง และยังช่วยลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือนอีกด้วย นอกจากนี้ที่งาน เจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้นำเสนอ เดนโด ไดร์ฟ เฮาส์ (DENDO DRIVE HOUSE) นวัตกรรมเพื่อการใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี V2X ที่ใช้พาหนะเป็นแหล่งจ่ายพลังงานได้สำหรับทุกสิ่ง

กลยุทธ์การพัฒนาเทคโนโลยียนตรกรรมไฟฟ้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกจากจะขับเคลื่อนแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้มุ่งสู่ความสำเร็จใหม่ๆ ในชีวิตแล้ว เทคโนโลยีอันก้าวล้ำจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังครอบคลุมถึงการใช้ชีวิตอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพให้ขับขี่ได้เป็นระยะทางที่ไกลยิ่งขึ้น ตลอดจนนำมาซึ่งความยั่งยืนด้านพลังงานสำหรับที่พักอาศัยและชุมชนอีกด้วย


 

บทความที่น่าสนใจ

Hyundai N จ่อเปิดตัว รถแข่งประสิทธิภาพสูง ใช้พลังไฮโดรเจน คาดทะลุ 800 แรงม้า

idiot

แฟนๆ อดใจรอหน่อย BMW Supercar จะเปิดตัวในปี 2023 กับกำลังที่มีมากกว่า 700 แรงม้า++ แน่นอน

idiot

เปิดตัว 2020 Nissan Titan กระบะไซส์ยักษ์สุดทรงพลัง มาพร้อมหน้าตาและเทคโนโลยีใหม่

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy