fbpx

รถยนต์ไฟฟ้า ซ่อมแพงกว่า รถสันดาป จริงหรือไม่ ?

สิ่งที่หลายๆคนเป็นกังวลเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคันหนึ่งนั่นก็คือ “ค่าซ่อมบำรุง” เมื่อตัวรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหลายๆคนมักจะบอกว่ามีราคาที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้น เรามาหาคำตอบพร้อมๆกันเลยครับ

 

ราคาค่าซ่อมรถยนต์ (ทุกประเภท) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากความซับซ้อนของเทคโนโลยีและชิ้นส่วน

Mitchell International บริษัทผู้รวบรวมข้อมูลจากบริษัทประกันภัยและข้อมูลการซ่อมแซมรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ค่าซ่อมรถยนต์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากถึง 36 เปอร์เซ็นต์หากเปรียบเทียบกับปี 2018 และอัตราค่าประกันภัยเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งโดยหลักๆแล้วมีสาเหตมาจากอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ถูกติดตั้งในรถยนต์สมัยใหม่ มีราคาที่สูงและซ่อมแซมได้ยาก โดยคุณ Ryan Mandell ผู้อำนวยการฝ่ายการเคลมของ Mitchell ได้กล่าวกับ The New York Times ไว้ว่า “การทำให้รถกลับคืนสู่สภาพก่อนขาดทุนนั้นยากกว่าครั้งไหนๆ ในประวัติศาสตร์ และมีแต่จะท้าทายมากขึ้นเท่านั้น”

รถยนต์สมัยใหม่ มีเทคโนโลยีและออปชั่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาค่าซ่อมเมื่อเกิดอุบัติเหตเพิ่มขึ้น

 

การมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาค่าซ่อมและเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น ?

ในประเด็นนี้ต้องตอบว่า “จริงส่วนหนึ่งและไม่จริงส่วนหนึ่ง” เพราะทาง Mitchell ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเกิดอุบัติเหต โดยเฉลี่ยแล้วจะมีค่าซ่อมที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไปอยู่ที่ราวๆ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (85,000 บาท) แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะโดยส่วนมากแล้วรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่รถยนต์หรู (Luxury) ซึ่งจะคิดจากรถยนต์ที่มีเรทราคาที่สูงกว่า 40,000 ดอลลาร์ขึ้นไป (Tesla Model 3 ราคาเริ่มต้นที่ 40,240 ดอลลาร์) และถ้าหากเปรียบเทียบค่าซ่อมระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับกลุ่มรถยนต์หรูจะพบว่าจะมีราคาค่าซ่อมที่ “แทบจะไม่แตกต่างกันเลย”  แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุใหญ่จนต้องเปลี่ยนชุดแบตเตอรี่ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่โอกาสดังกล่าวก็เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก

Tesla ส่งมอบรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 466,140 คัน

 

ราคาแบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่หลายคนกลัว แต่บริษัทรถยนต์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้ราคาต่ำลง

อยากที่เราเห็นข่าวรถยนต์ไฟฟ้าเกิดอุบัติเหตุ จนทำให้ต้องเปลี่ยนชุดแบตเตอรี่ซึ่งมีราคาอยู่ที่ราวๆ 60-70 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถ เป็นสิ่งที่หลายๆคนต่างเป็นกังวล แต่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างรู้ถึงความกังวลดังกล่าวและกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของลูกค้าที่ตัวรถเกิดอุบัติเหตุจนตัวแบตเตอรี่เกิดความเสียหาย ตัวอย่างเช่น BMW และ General Motors ที่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่แบบโมดูลาร์ที่สามารถเปลี่ยนเฉพาะเซลล์ที่ได้รับความเสียหายได้ โดยจะมีตัวเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดแรงกระแทกได้

ในขณะนี้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า และฝ่ายที่ยังคงเป็นกังวลถึงปัจจัยหลายๆอย่างของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเราขอแนะนำให้ทุกท่านศึกษาอย่างละเอียด และหาคำตอบให้ได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า “เหมาะกับตัวเองแล้วจริงหรือไม่” เนื่องจากแต่ละบุคคลมีความพร้อมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างกันนั่นเองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Mitchell International / Carscoops.com

รับชมข่าวสารยานยนต์อื่นๆที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี

 

บทความที่น่าสนใจ

“IMC สื่อสากล” ต่อยอดงาน MOTOR EXPO เตรียมขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั่วเอเชีย

idiot

2020 Mazda CX-30 เปิดรับจองแล้วในอังกฤษ พร้อมส่งมอบต้นปีหน้า เริ่มต้น 8.6 แสนบาท

Peng

Sony และ Honda อาจนำเครื่องเกม PS5 มาใส่ในรถ EV เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy