fbpx
ทดลองขับ New Suzuki Swift GL Plus

New Suzuki Swift GL Plus เพิ่มนิด เติมหน่อย คล่องตัวดี ประหยัดน้ำมันเหมือนเดิม

ในยุคที่น้ำมันเดือดสุดๆตั่งแต่ที่เคยเจอมาก็ว่าได้ ประจวบเหมาะกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทในบ้านเรามากขึ้น แต่หลายๆคนยังไม่มั่นใจในเรื่องของแบตเตอรี่และระยะทางที่วิ่งได้รวมถึงจุดชาร์จไฟต่างๆที่ยังไม่ได้มีแพร่หลายมากนัก ถ้าจะให้เลือกรถยนต์ใช้งานที่ดูท่าจะเหมาะสมที่สุดในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้นรถยนต์ประเภท Eco Car หนึ่งในนั้นที่ได้รับความนิยมไม่น้อยก็คือเจ้า SUZUKI SWIFT ที่สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องกว่า 148,000 คัน  ด้วยรูปทรงดีไซน์ตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ มีความสวยงาม และโดดเด่น ผสานเข้ากับสมรรถนะขับขี่ที่เร้าใจอีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน จึงทำให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถยนต์ไซส์เล็กๆที่ขับสนุกอีกทั้งประหยัดน้ำมันได้อย่างตรงจุด และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับ New Suzuki Swift GL Plus อัพเกรดชุดแต่งรอบคัน เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition ตอกย้ำภาพลักษณ์สปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์

ถ้าเพื่อนๆสังเกตดูว่ารถ SUZUKI SWIFT จะถูกผู้บริโภคนิยมนำไป Custom หรือตกแต่งเพิ่มความสวยงามในสไตล์ของตัวเองเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแนว RACING , JDM หรือ Fush Style เราก็ได้เห็นกันอยู่บ่อยๆตามท้องถนนหรือแม้กระทั้งตามงานโชว์รถ ทางซูซูกิจึงปิ๊งไอเดียได้ปล่อย New Suzuki Swift GL Plus ออกสู่ตลาดด้วยการพัฒนาสินค้าให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถที่ออกแบบตกแต่งด้วยชุดแต่งพิเศษจากโรงงาน ตอกย้ำความเป็นสปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์ที่มีความโดดเด่น ซึ่งทำออกมาได้ลงตัวไม่น้อย

สำหรับ New Suzuki Swift GL Plus มาพร้อมกับแนวคิด Limitless Edition สไตล์ท้าทาย ทุกขีดจำกัด”  โดยถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น SUZUKI SWIFT GL ด้วยการแต่งเสริมเติมปาก เน้นการปรับลุคภายนอกให้ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยชุดสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม และ ซุ้มล้อสีดำ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วยชุดสติกเกอร์ GL PLUS ลายใหม่

ทั้งนี้ New Suzuki Swift GL Plus  ถ้าไม่รวมชุดแต่งที่ใส่มาให้ใหม่นั้น ส่วนอื่นๆต่างๆก็ยังเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็น

กระจังหน้าสีดำตกแต่งลายเส้นโครเมียม ไฟหน้าแบบแบบฮาโลเจนมัลติรีเฟลคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED บริเวณกันชนหน้ารถ ล้อกระทะพร้อมฝาครอบและยางขนาด 175/65R15 และไล่ฝ้ากระจกหลัง

ภายในตัวรถก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เครื่องเสียงรองรับ USB เบาะนั่งนุ่มสบายพร้อมปรับตำแหน่งสูง-ต่ำบริเวณคนขับ พร้อมพนักพิงศีรษะแยกส่วน สำหรับที่นั่งด้านหลังสามารถปรับพับแบบ 60:40 พร้อมพนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน 3 ตำแหน่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร เมื่อพับเบาะแล้วก็ถือว่ากว้างขวางไม่น้อยเมื่อในรถประเภทอีโคคาร์

ในส่วนเครื่องยนต์ก็ยังเหมือนเดิม เครื่องยนต์รหัส K12M เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 การขับขี่ให้การตอบสนองที่ดี ให้ความรู้สึกสนุกสนาน คล่องตัว พวงมาลัยคม แม่นยำ แต่!ในช่วงความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไปจะให้ความรู้สึกหวิวๆหน่อยในบางช่วงเมื่อโดนลมปะทะ เนื่องด้วยตัวรถนั้นมีน้ำหนักที่เบา หากในกรณีที่มีผู้โดยสารภายในรถหรือสัมภาระ รถมีการแบกน้ำหนักจะทำให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับอัตราเร่งที่หายไปนิดหน่อย โดยเส้นทางที่ใช้ในการทดลองขับครั้งนี้เริ่มสตาร์ทจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่หัวหินโดยขามาบอกเลยว่าไม่ได้ใช้ความเร็วสูง เนื่องด้วยปริมาณรถที่ค่อนข้างหนาแน่นแต่สิ่งที่ได้เห็นกลับมาคือในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 25.1 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่าที่ทางโรงงานเคลมมาซะอีก โรงงานเคลมมาอยู่ที่ 23 กิโลเมตร/ลิตร ตอบโจทย์สายชิวไปเรื่อยๆประหยัดแน่นอน

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Suzuki โครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

พร้อมด้วยระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง, ระบบเบรก ABS และ EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง, ระบบ Hill Hold Control ที่ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง, ระบบล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 2 ตำแหน่ง ก็ถือว่าให้มาเยอะพอตัวเลยในรุ่นรองท็อป GL+

ถ้าให้สรุปเกี่ยวกับเจ้า New Suzuki Swift GL Plus ใหม่นี้ที่ปรับราคาเพิ่มจากเดิมมา 10,000 บาท คุ้มค่าไหม ?ส่วนตัวผมมองว่าคุ้มนะ เพราะได้ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม ครบๆจบๆมาจากโรงงาน โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าน้ำมันไปหาร้านตกแต่งเพิ่ม ชุดแต่งจากโรงงานที่ทำออกมาก็ไม่ได้ขี้เหร่ อีกทั้งยังทำให้ดูรถสปอร์ต โฉบเฉี่ยว สวยงามมากขึ้น แต่!ถ้าใครอยากให้รถดูลงตัวกว่านี้ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าหาล้อแม็กสวยๆสักชุด โหลดจัดทรงอีกหน่อย ดูลงตัวแน่นอน  โดย New Suzuki Swift GL Plus มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic, สีเทา Star Silver Metallic, สีเทา Mineral Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl จำหน่ายในราคา 572,000 บาท และ สีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคา 577,000 บาท และสำหรับใครที่อยากจะไปสัมผัสหรือทดลองขับคันจริงๆ ก็สามารถไปได้ที่โชว์รูม ซูซูกิ ได้ทุกสาขาทั่วประเทศได้เลยนะครับ

เรื่องโดย : V.SONGSAIKET

บทความที่น่าสนใจ

ลองขับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ (2018) ปลอดภัยเพิ่ม สบายเหมือนเดิม

idiot

ลองขับ!! มิตซูบิชิ Xpander รถครอบครัวขนานแท้ ถ้าราคาดี ไร้คู่แข่งแน่

idiot

All New Suzuki XL7 อีกหนึ่ง Crossover MPV ในตลาด ขับสนุก ช่วงล่างดี แล้วต่างจาก Ertiga ตรงไหน?

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy