fbpx
Toyota GR Corolla Circuit Edition กลับมาอีกครั้งพร้อมสีน้ำเงินใหม่ และผลิตเพิ่มอีก 1,600 คัน

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนชะลอตัว 16.3% ยอดขายเก๋งโต ปิ๊กอัพทรุดหนัก

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2566 ด้วยยอดขาย 62,086 คัน ลดลง 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถยนต์นั่งยังเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 25,425คัน เติบโต 10.4% ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 36,661 คัน ลดลง 28.3% โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวอย่างหนักด้วยยอดขาย 23,343 คัน ลดลง 43.6%

ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์

ตลาดรถยนต์กันยายนชะลอตัวต่อเนื่อง 16.3% ด้วยยอดขาย 62,086 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งยังเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 10.4% ด้วยยอดขาย 25,425 คัน เป็นผลมาจากการเติบโตของเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยยยอดขาย 15,368 คัน ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวที่ 28.3% ด้วยยอดขาย 36,661 คัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันหดตัวถึง 43.6% ด้วยยอดจำหน่าย 23,343 คัน จากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคประชาชน และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจขนส่ง อันเป็นผลมาจากภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์ตุลาคมเดินหน้าเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นส์ไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อหวังกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของตลาดรถยนต์ต่อไป

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2566

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 62,086 คัน ลดลง 16.3%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,141 คัน  ลดลง 7.9 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ  10,898 คัน  ลดลง 49.5%  ส่วนแบ่งตลาด 17.6%
  • อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,113 คัน เพิ่มขึ้น 34.2%  ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,425 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า  9,922 คัน เพิ่มขึ้น 34.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
  • อันดับที่ 2 ฮอนด้า  4,212 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 16.6%
  • อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ  1,083 คัน  ลดลง 39.6% ส่วนแบ่งตลาด 4.3%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 36,661 คัน ลดลง 28.3%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า  11,219  คัน  ลดลง 28.0% ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ   10,898 คัน  ลดลง 49.5%  ส่วนแบ่งตลาด 29.7%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด  4,901 คัน  เพิ่มขึ้น 489.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 23,343 คัน ลดลง 43.6%

  • อันดับที่ 1 โตโยต้า  9,547 คัน  ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
  • อันดับที่ 2 อีซูซุ   9,298 คัน  ลดลง 54.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.8%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด  2,946 คัน  ลดลง 41.2%  ส่วนแบ่งตลาด 12.6%

 *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,229 คัน

โตโยต้า 1,607 คัน – อีซูซุ 1,343 คัน – ฟอร์ด 936  คัน – มิตซูบิชิ 255 คัน – นิสสัน 88 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,114คัน ลดลง 45.0%

  • อันดับที่ 1 อีซูซุ    7.955 คัน ลดลง 56.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.6 %
  • อันดับที่ 2 โตโยต้า  7,940 คัน ลดลง 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 41.5%
  • อันดับที่ 3 ฟอร์ด   2,010 คัน ลดลง 44.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

บทความที่น่าสนใจ

Toyota ประกาศชัด จะไม่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าในรถตระกูล GR ภายในปี 2030

Nopkung

Honda HR-V รุ่นใหม่ ถูกจับภาพได้ขณะวิ่งทดสอบคาดเปิดตัวปลายปีนี้

idiot

Mercedes-Benz มอบราคาพิเศษสำหรับรุ่น E 350 e Final Edition ล็อตสุดท้าย

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy