fbpx
Maserati GranTurismo ส่ง 3 รุ่นพิเศษ One-Off อวดโฉมในเทศกาลดีไซน์วีคที่มิลาน

Maserati GranTurismo ส่ง 3 รุ่นพิเศษ One-Off อวดโฉมในเทศกาลดีไซน์วีคที่มิลาน

Maserati เลือกงาน Milan Design Week เพื่อเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นพิเศษ One Off ที่มีพื้นฐานมาจาก GranTurismo รุ่นใหม่ ได้แก่ Prisma, Luce และ Ouroboros พร้อมการปรากฏตัวของคนดังระดับโลกอย่าง David Beckham ที่เข้าร่วมสัมผัสอย่างใกล้ชิด

เริ่มจาก GranTurismo One Off Prisma เป็นผลงานฝีมือสุดประณีต ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเน็ททูโน (Nettuno) เบนซิน V 6 สะท้อนถึงต้นกำเนิดของรถรุ่นนี้ โดยทุกรายละเอียดของตัวรถผ่านฝีมือการรังสรรค์ที่มีความประณีตในการการเลือกเฉดสี และการตกแต่งด้วยตัวอักษร กว่า 8,500 ตัวที่บอกเล่าชื่อรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของ Maserati

โดยตัวรถแต่งแต้มด้วย 14 เฉดสี โดย 2 เฉดสีจากทั้งหมดจะบ่งบอกถึงพลังแห่งอนาคต ในขณะที่อีก 12 เฉดสี เป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอดีตของ GranTurismo อาทิ สีแดง Amaranto อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น Maserati A6 1.500 ปี 2490 หรือสีทอง Oro Longchamps ของรุ่น Maserati Khamsin ปี 2516

GranTurismo One Off Luce พัฒนาขึ้นจากนวัตกรรมซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้ารุ่น Folgore ซึ่งบ่งบอกถึงการค้นคว้าและการวิจัยอย่างต่อเนื่องของ Maserati การตกแต่งภายนอกมีการเคลือบด้วยสีสะท้อนแบบกระจกที่ตัวถัง พร้อมแกะสลักลวดลายด้วยเลเซอร์ และลงสีด้วยสีที่ทำให้รถดูกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง ส่วนวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในได้นำเสนอสัมผัสแห่งอนาคต ด้วยการใช้ไนลอนชนิดพิเศษ ECONYL® ที่มอบความสวยงาม และยังโดดเด่นด้วยตกแต่งด้วยสีน้ำเงินแบบโมโนโครมตามสีของท้องทะเล

ภายในมีความโดดเด่นด้วยเส้นสายลายกราฟิกบริเวณคอนโซลกลาง และการใช้เลเซอร์สร้างลวดลายแบบไล่ระดับสีที่เบาะพนักพิง ผลลัพธ์ที่ได้คือการตกแต่งขั้นสูงที่สร้างความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณของ มาเซราติ พร้อมด้วยความงดงามของการดีไซน์ที่น่าอัศจรรย์

GranTurismo One Off Ouroboros กรันทูริสโม ดีไซน์แบบ 3D ที่ถูกออกแบบด้วยฝีมือของ Hiroshi Fujiwara ผู้นำสตรีทแฟชั่น โดยเน้นการตีความร่วมสมัยของ GranTurismo ในรูปแบบของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมสื่อถึงการเชื่อมโยงและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดย Hiroshi Fujiwara ได้ผสมผสานการออกแบบ โดยอาศัยองค์ประกอบที่โดดเด่นของ มาเซราติ รุ่นต่าง ๆ ในอดีต อย่างการนำกระจังหน้าจากรุ่น A6GCS Berlinetta Pininfarina และช่องระบายอากาศข้างตัวรถจากรุ่น 3500 GT ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามแห่งยุค 50 พร้อมด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบปิดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถแข่งในยุค 60 เช่น มาเซราติ รุ่น Tipo 151 ในขณะที่ล้อฟอร์จได้รับแรงบันดาลใจจากล้อแม็กนีเซียมอัลลอยด์รุ่นบุกเบิกแบรนด์ Bora ในยุค 70 และแผงไฟท้ายที่มาจากการออกแบบที่ล้ำสมัยของรุ่น Shamal ในช่วงยุค 80 และ 90

โดยผลงานชิ้นเอกที่ถูกนำเสนอทั้งในรูปแบบรถคันจริง และแบบ 3D ทั้งหมดนี้ ได้สะท้อนความมุ่งมั่นของ มาเซราติ ที่พร้อมขับเคลื่อนไปสู่อนาคต และยังเป็นยนตรกรรมที่ถูกสร้างขึ้นแบบ Fuoriserie ที่ให้ลูกค้าได้แสดงตัวตนที่ชัดเจนผ่านการออกแบบและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยหลังการเปิดตัวที่งาน Milan Design Week 2023 แล้ว ยนตรกรรม Maserati ทั้งหมดนี้จะเดินทางไปทั่วโลก เพื่อร่วมฉลองการเปิดตัว GranTurismo และเปิดโอกาสให้ผู้ที่หลงใหลในยนตรกรรมของ Maserati ได้ร่วมสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

บทความที่น่าสนใจ

แรงให้สุด แล้วมาหยุดที่แคมเปญ Ducati สุดเร้าใจในงาน Motor Expo 2019

idiot

Tesla อาจไม่ปังอย่างที่คิดในประเทศไทย เหตุคนไทยกำลังซื้อต่ำ !!

Nopkung

Maserati Ghibli Operanera และ Operabianca ยนตรกรรม 2 รุ่นพิเศษที่เปี่ยมด้วยความกล้าและบ้าบิ่น

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy