fbpx

ALL-NEW ISUZU MU-X รถอเนกประสงค์ระดับมาสเตอร์พีซรุ่นล่าสุด เริ่มต้นที่ 1.109 ล้านบาท

ALL-NEW ISUZU MU-X ถูกเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (ORIGINALITY REDEFINED)” สะท้อนภาพลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 1.109 ล้านบาท

ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ World Cross Flow ผสมผสานพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายของวัสดุพรีเมียม ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature เพิ่มมิติมุมมองให้โดดเด่นด้วยโคมไฟ 3-Line LED ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไดนามิคดีไซน์ ขนาด 20 นิ้ว ในรุ่น Ultimate ขนาด 18นิ้ว ในรุ่น Elegant และ Luxury และขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น Active

ห้องโดยสารถูกออกแบบใหม่หมด ให้ความกว้างขวาง โอ่อ่า นั่งสบายยิ่งขึ้นทั้ง 3 ตอน คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู พร้อมเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold เบาะนั่งดีไซน์หรูสี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Sequential Paddle Shift ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate และไฟ Ambient Light และ Dome Light ช่วยเติมแต่งบรรยากาศหรูมีระดับ

หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ยังมี Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย Power Tailgate ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam Protection กุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบ Genius Sport Shift ขณะที่ระบบขับเคลื่อนมีให้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นแบบ Part Time ปรับเปลี่ยนด้วยไฟฟ้า ควบคุมผ่านสวิตช์ Terrain Command นอกจากนี้ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีระบบ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และเบรกทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

ช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และเหล็กกันโคลง ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ 5-Link Suspension พร้อมเหล็กกันโคลง โครงสร้างตัวถังเสริมเหล็ก Ultra-High Tensile และมีการวางตำแหน่งเครื่องยนต์เยื้องหลังเพลาหน้า แบบ Semi-Midship กระจายน้ำหนัก เกาะถนน ทรงตัวดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ประกอบด้วย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง ด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time กล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน

  • ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
  • PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
  • MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
  • BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์

  • Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
  • MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • Anti-lock Brake System (ABS) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก พร้อม Brake Assist (BA) ระบบเสริมแรงเบรก และ Electronic Brake-force Distribution (EBD) ระบบกระจายแรงเบรก
  • Traction Control System (TCS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว
  • Electronic Stability Control (ESC) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะขับขี่

  • Trailer Sway Control (TSC) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย
  • Brake Override System (BOS) ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก
  • Hill Start Assist (HSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • Hill Descent Control (HDC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
  • โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่งและทนทาน
  • SRS Airbags 6 ตำแหน่ง

มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic)

ราคาอย่างเป็นทางการ

ดีเซล 1.9 เทอร์โบ

  • 1.9 ACTIVE AT 2WD 1,109,000
  • 1.9 LUXURY MT 2WD 1,254,000
  • 1.9 LUXURY AT 2WD 1,304,000
  • 1.9 ELEGANCE AT 2WD 1,349,000
  • 1.9 ULTIMATE AT 2WD 1,434,000

ดีเซล 3.0 เทอร์โบ

  • 3.0 ULTIMATE AT 2WD 1,479,000
  • 3.0 ULTIMATE AT 4WD สีขาวมุก 1,591,000 สีเมทาลิค 1,579,000

 

บทความที่น่าสนใจ

เบนซ์ ตลิ่งชัน นำร่องรับเด็กอาชีวะยานยนต์เข้าฝึกงาน เพื่อพัฒนาทักษะสู่ระดับสากล

idiot

คันเดียวในโลกจาก Ferrari กับโปรเจคพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก F40 ในอดีต

idiot

A.P. Honda เปิดตัวสถานี PCX Electric Smart Station แห่งแรกในเมืองไทย เพื่อศึกษารูปแบบ EV Sharing

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy