fbpx

ชมคันจริง All-New Honda Accord e:HEV ราคา 1,529,000-1,799,000 บาท

All-New Honda Accord e:HEV ถูกเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น E, EL และ RS โดยวางจำหน่ายในราคาดังนี้

  • รุ่น e:HEV E  ราคา 1,529,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL  ราคา 1,669,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS  ราคา 1,799,000 บาท

มาพร้อมสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก)  สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)  สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)  และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)

ข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าเมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.29% พร้อมรับ Honda Exclusive Care ประกอบด้วย

  • ฟรีประกันภัย 1 ปี
  • ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ต่อจากการรับประกันคุณภาพรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สิ้นสุด รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ภายนอก

  • กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตใหม่
  • ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีเงิน (รุ่น e:HEV E) และขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำ (รุ่น e:HEV EL)

ภายใน

  • ใหม่ ปุ่ม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ได้
  • ใหม่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง
  • ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ
  • ใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card (รุ่น e:HEV RS)
  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ฮอนด้า ที่ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key
  • ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

ในรุ่น e:HEV RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วย

  • สัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย
  • ใหม่ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา
  • ใหม่ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential
  • ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ต
  • ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมียม
  • เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต
  • สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เสริมความสปอร์ตหรูด้วยสีดำแบบแมตต์
  • ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black

Accord e:HEV ใหม่ ทุกรุ่นย่อย ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด

  • ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 25 กม./ลิตร
  • สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด (Intelligent Multi-mode drive) ประกอบไปด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) นอกจากนี้ในขณะลดความเร็ว ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการลดความเร็วนั้นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จกลับไปยังแบตเตอรี่ (Regeneration)
  • สวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ เพียงกดปุ่มที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ ได้แก่
    • ใหม่ โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย ระบบ Adaptive cruise control และสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ
    • โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
    • โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
    • โหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

Accord e:HEV ใหม่ ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ผสานการทำงานของกล้องมุมกว้างด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ใหม่ ครั้งแรกใน แอคคอร์ด กับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
  • ใหม่ ครั้งแรกใน Accord กับ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ

  • สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้า โดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน Accord ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมัน และยังมีการพัฒนาแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้น
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)
  • ถุงลม 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
  • ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และ ใหม่ รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)

ครั้งแรกกับหลากหลายเทคโนโลยีเชื่อมต่ออันล้ำสมัย รองรับสมาร์ตไลฟ์สไตล์

  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ Honda ที่มี Google built-in พบกับแอปที่คุณชื่นชอบอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายจาก Google Play 
  • ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS)
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว 
  • ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ใหม่ ครั้งแรกของรถยนต์ Honda กับฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ Over-The-Air (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้รถไม่เพียงสามารถอัปเดตระบบ Infotainment แต่ยังสามารถอัปเดตการทำงานของ ECU จากทางไกลได้ เพิ่มความสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยังศูนย์บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เปิดตัว EQB 250 AMG Line เอสยูวีไฟฟ้าล้วนรุ่นล่าสุด นำเข้าขายในไทยราคา 3,020,000 บาท

Peng

ปรับราคา ORA Good Cat ตามมาตรการสนับสนุนของรัฐ เริ่ม 828,500 – 1,038,500 บาท

Nopkung

2020 Porsche Macan GTS เปิดตัวพร้อมขุมพลัง 380 แรงม้า และเกียร์คลัทช์คู่ลูกใหม่

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy