fbpx

เทียบสเปก กระบะ 4 ประตูยกสูงงบ 1.3 ล้าน Toyota Revo Rocco 4×4 vs Ford Ranger Wildtrak Bi-Turbo

วันนี้เรานำ รถกระบะยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ สองรุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Revo Rocco 4X4 รุ่นท๊อป ราคาค่าตัว 1,281,000 บาท เทียบสเปกกับ Ford Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo 4X4 ราคาค่าตัว 1,314,000 บาท มาดูกันว่าใครจะมีสเปกและออปชั่นเป็นอย่างไรบ้าง

Ford Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo 4X4
Ford Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo 4X4
Toyota Hilux Revo Rocco 4x4
Toyota Hilux Revo Rocco 4×4

 

ขนาดมิติตัวถัง

ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่ขนาดมิติตัวถังของ Hilux Revo Rocco และ Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo โดยรถทั้งสองคันมีขนาดมิติตัวถังดังนี้

 

Ford Ranger Wildtrak

Toyota Hilux Revo Rocco

ความกว้าง

1,918 มิลลิเมตร

1,900 มิลลิเมตร

ความยาว

5,370 มิลลิเมตร

5,325 มิลลิเมตร

ความสูง

1,884 มิลลิเมตร

1,815 มิลลิเมตร

ระยะฐานล้อ

3,270 มิลลิเมตร

3,085 มิลลิเมตร

ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance)

230 มิลลิเมตร

217 มิลลิเมตร

น้ำหนัก

2,156 กิโลกรัม

2090 กิโลกรัม

 

หากเปรียบเทียบขนาดตัวถังระหว่างรถทั้ง 2 รุ่นจะพบว่า Ranger Wildtrak มีขนาดที่ “ใหญ่กว่าในทุกมิติ” โดยมีความกว้างที่มากกว่า 18 มิลลิเมตร, ยาวกว่า 45 มิลลิเมตร, สูงกว่า 69 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า 185 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ที่มากกว่า 13 มิลลิเมตร แต่แน่นอนว่าด้วยขนาดตัวถังที่มากกว่าตัวรถจึงมีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งอยู่ที่ 66 กิโลกรัม

 

เครื่องยนต์

มาต่อกันที่ขุมพลังของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งจะได้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันที่ขนาดความจุของเครื่องยนต์และจำนวนของเทอร์โบ รวมถึงพละกำลังสูงสุด โดยมีสเปกดังต่อไปนี้

  • Ford Ranger Wildtrak – เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.0 ลิตร พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จ 2 ตัว (Bi-Turbo) ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 210 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,750 – 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
  • Toyota Hilux Revo Rocco เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.8 ลิตร พร้อมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

หากเปรียบเทียบเครื่องยนต์ในรถทั้ง 2 คันจะพบว่าทาง Ranger Wildtrak ดูเหมือนจะได้เปรียบเรื่องกำลังแรงม้า สูงสุด ที่มากกว่า Revo Rocco อยู่เล็กน้อย (6 แรงม้า) แต่เมื่อมาดูในรายละเอียดดีๆแล้วจะเห็นว่า รอบเครื่องยนต์ที่ใช้รีดกำลังแรงม้าและแรงบิดสูงสุดของ Revo จะมาในรอบที่ต่ำกว่า Ranger อยู่พอสมควร อีกทั้งยังมีช่วงที่สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดได้กว้างกว่า Ranger มากพอสมควร

 

ออปชั่นความปลอดภัย

มาต่อกันที่ออปชั่นความปลอดภัยของ Ranger Wildtrak และ Revo Rocco ซึ่งจะได้ออปชั่นดังต่อไปนี้

ออปชั่นความปลอดภัยของ Ford Ranger Wildtrak
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง 
  • เซ็นเซอร์เตือนระยะด้านหน้าและด้านหลัง
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
  • ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงเขา
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง adaptive cruise control with stop & go
  • ระบบช่วยเตือนและควบคุมรถให้อยู่ในเลน
  • ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Matrix LED ปรับมุมของลำแสงโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติ
  • ระบบตรวจจับรถในจุดอับสายตา Blind Spot และตรวจจับรถยนต์ขณะถอยออกจากช่องจอด Cross Traffic Alert

 

ออปชั่นความปลอดภัยของ Toyota Hilux Revo Rocco
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง 
  • เซ็นเซอร์เตือน-กะระยะ ด้านหน้าและด้านหลัง
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control (ไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง Stop & Go)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
  • ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PRE-COLLISION SYSTEM

เมื่อเปรียบเทียบออปชั่นความปลอดภัยของรถทั้ง 2 คัน เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Ranger Wildtrak ค่อนข้างได้เปรียบอยู่มากพอสมควร ซึ่งถึงแม้ว่าออปชั่นความปลอดภัยพื้นฐานจะใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่โดดเด่นของ Ford ก็คือ ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Matrix LED ที่สามารถปรับมุมของลำแสงโดยอัตโนมัติ ซึ่งมาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง adaptive cruise control with stop & go ในขณะที่ทาง Revo จะได้เป็น adaptive cruise control เหมือนกัน แต่จะไม่ทำงานถึงจุดหยุดนิ่ง (Stop & Go)

 

ราคา การรับประกัน และสิทธิประโยชน์

ปิดท้ายกันที่ราคาและการรับประกันของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Ford Ranger Wildtrak – ราคา 1,314,000 บาท
  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Ford Care 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
  • รับประกันคุณภาพอะไหล่ในกลุ่มเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
  • ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็กระยะตามมาตรฐานฟอร์ดจำนวน 5 ครั้ง ภายในระยะ 60 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. ตลอด 3 ปี
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1

Toyota Hilux Revo Rocco 4×4 – ราคา 1,281,000 บาท

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะรอบ 10,000 – 50,000 กิโลเมตร โดยจะต้องนำรถเข้ารับบริการภายในรอบ 6 เดือนทุกครั้ง
  • หมายเหตุ : ประกันภัยชั้น 1 และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับดีลเลอร์ผู้จัดจำหน่าย

ปิดท้ายกันที่การรับประกันและสิทธิประโยชน์ของรถทั้ง 2 คัน ซึ่งจะได้การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และฟรีค่าแรงบำรุงรักษา 5 ครั้งเหมือนกัน (Ford จะเข้าเช็กระยะทุกๆ 15,000 กิโลเมตร, Toyota เข้าเช็กระยะทุกๆ 10,000 กิโลเมตร) แต่ทาง Ford จะได้การรับประกันคุณภาพอะไหล่ในกลุ่มเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (ของ Toyota ได้แค่ 5 ปี)

สำหรับท่านที่สนใจรถทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถสอบถามข้อมูลและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยรายละเอียดต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบายของแต่ละบริษัท

รับชมข่าวสารยานยนต์อื่นๆที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี

บทความที่น่าสนใจ

ซื้ออะไหล่มือสอง..อย่างไร ถึงจะ ไม่โดนหลอก และ ผิดหวัง

idiot

Toyota ปฏิวัติวงการพลังงานสะอาด เผยโฉม “ตลับไฮโดรเจนแบบพกพา”

Nopkung

นึกว่ามือถือ BMW ออกอุปกรณ์ Wireless Charger แท่นชาร์จไร้สายสำหรับ 530e iPerformance

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy