ถ้าหากรู้ว่ายางรถที่ท่านขับเกิดแบนขึ้นมา ไม่ว่าท่านจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ถ้าคิดว่าบริเวณนั้นไม่ปลอดภัยเพียงพอต่อการที่จะจอดรถเช่นเป็นที่เปลี่ยว มืด ก็ให้ท่านไตร่ตรองให้ดีว่าจะจอดรถเพื่อทำการถอดเปลี่ยนยางหรือไม่ หากตัดสินใจว่าจะจอดรถแล้วทำการถอดเปลี่ยนยางแล้วมีทีท่าว่าจะปลอดภัย ก็ให้ท่านขับรถต่อไป โดยหากรถที่ท่านขับเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ ก็ให้ขับไปด้วยเกียร์ในตำแหน่ง D แล้วขับด้วยความเร็วสม่ำเสมอไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าหากเป็นรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา ก็ให้ท่านขับด้วยเกียร์ 2 และรักษาระดับความเร็วไว้ที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเช่นกัน
ทั้งนี้ให้ขับรถด้วยการพยายามรักษาระดับความเร็วอย่างคงที่สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการหักพวงมาลัยไปมา เพราะการเร่งความเร็วและลดความเร็วขึ้นลง จะทำให้ล้อรถมีอาการกระชากและหยุด จนทำให้ยางที่แบนอยู่นั้นอาจจะปลิ้นหลุดออกมาจากกระทะล้อได้ เช่นเดียวกันกับการที่ท่านขับโดยการหักพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางไปมา ก็จะทำให้ยางหลุดออกมาได้เช่นกัน ทั้งนี้รวมไปถึงการเบรกโดยไม่จำเป็นอีกด้วย เพราะว่าเมื่อเบรกแต่ละครั้ง กระทะล้อจะหลุดโดยบดบี้ไปกับเนื้อยางที่ยังไถลต่อไปด้วยแรงเฉลี่ยของรถ จะทำให้ยางหลุดออกจากขอบล้อด้วยเช่นกัน
หากเป็นเวลายามวิกาลในที่เปลี่ยว เมื่อท่านขับรถไปด้วยความเร็วอย่างสม่ำเสมอดังที่บอกไว้อาจจะมีผู้ที่ทำท่าทีว่าจะเป็นผู้หวังดีขี่รถมอเตอร์ไซค์หรือหรือขับรถมาทำท่าชี้ให้ดูยาง ก็ต้องอยู่ที่วิจารณญาณของท่านเองว่าจะเชื่อถือไว้ใจในการที่จะจอดรับความช่วยเหลือจากผู้นั้นหรือไม่ สำหรับคำแนะนำจากผมก็คือ ให้ทำท่าขอบคุณแล้วก็ขับรถต่อไปอย่างนั้นจนถึงที่ซึ่งมีผู้คนอยู่มากพอ เช่นตามปั๊มน้ำมันหรือตามร้านสะดวกซื้อทั้งหลายที่มักจะเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วจึงลงมาตรวจตราดูความเสียหายและทำการถอดเปลี่ยนต่อไป
การขับรถมาในลักษณะดังกล่าว ท่านอาจจะต้องเสียยางเส้นนั้นๆ ไปอย่างไม่สามารถซ่อมได้ ซึ่งหากตีราคาจากยางใหม่ก็อยู่ที่ระดับราคาเฉลี่ยพันกว่าบาท หรือหากท่านโชคร้ายกว่านั้นท่านก็อาจจะต้องเสียกระทะล้อนั้นไปด้วย แต่ก็น่าจะคุ้มกว่าการที่จะลงไปเสี่ยงกับความเสียหายทางร่างกายและทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งเรื่องอย่างนี้คงจะต้องพิจารณากันด้วยวิจารณญาณของแต่ละบุคคล สำหรับในบทความนี้เพียงแต่จะชี้ทางให้เห็นว่า การที่ยางแบนขึ้นมานั้น ไม่ใช่ว่ารถคันนั้นๆ จะต้องจอดนิ่งอยู่กับที่เคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะมีเจ้าของรถหลายท่านที่ยังเชื่ออย่างนั้นอยู่ และเมื่อมีความเสียหายจากอาชญากรเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่สายเกินแก้ไปเสียแล้ว ความเสียหายบางอย่างมันเรียกคืนกลับมาไม่ได้เสียด้วยสิ