Toyota ประกาศมีเป้าหมายที่จะทุ่มเงินกว่า 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4.58 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ก่อนทศวรรษนี้จะสิ้นสุดลง โดยการเดินหน้าครั้งนี้จะทำให้เห็นว่ามีการลงทุนมากขึ้นในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนและโซลิดสเตต
มาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Toyota กล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตต ไม่ใช่แค่ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถยนต์ไฮบริดด้วย อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับว่าวิศวกรจะสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความสมดุลของกำลังขับ และความเสถียรที่เหมาะสมได้หรือไม่
นอกจากนี้ Toyota ยังวางแผนที่จะจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเจเนอเรชันถัดไปในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ แต่ในระหว่างนี้บริษัทจะเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์รุ่นเก่าด้วยโครงสร้างเซลล์แบบ “ไบโพลาร์” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยโครงสร้างนี้ช่วยให้แบตเตอรี่เพิ่มความหนาแน่นของพลังงานได้เป็น 2 เท่า
โดยรวมแล้ว Toyota หวังว่าจะสามารถจัดหาแบตเตอรี่ได้ 200 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงภายในปี 2030 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 180 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง Toyota เชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้บริษัทสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 8 ล้านคันภายในปี 2030
“เรากำลังมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัย อายุการใช้งานที่ยาวนาน และคุณภาพระดับสูงเพื่อผลิตแบตเตอรี่ที่ดี ต้นทุนต่ำ และประสิทธิภาพสูง สิ่งที่ Toyota ให้ความสำคัญมากที่สุดคือการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ลูกค้าสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ” มาเอดะ กล่าวทิ้งท้าย