fbpx

มรดกอันน่าเหลือเชื่อของ McLaren GTR: การเปรียบเทียบ F1 GTR, P1 GTR, Senna GTR

McLaren สร้าง GTR ที่เป็นตำนานมาแล้ว 3 รุ่น ได้แก่ F1 GTR, P1 GTR, และ Senna GTR แต่ละรุ่นถือเป็นงานศิลปะที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ละคันมีเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่สนใจการเปรียบเทียบที่น่าสนใจ นักข่าวชื่อดัง Henry Catchpole ได้โชคดีที่สามารถรวบรวม 3 รถ GTR อันยิ่งใหญ่นี้มารวมกันในวิดีโอที่คุณไม่ควรพลาด ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของ McLaren หรือรถสปอร์ตสุดพิเศษ คุณต้องดู! วิดีโอนี้ยาวแค่ 30 นาที และคุ้มค่าแก่การรับชมอย่างยิ่ง

1. McLaren F1 GTR: ตำนานผู้ชนะ Le Mans

McLaren F1 GTR คือรถที่เกือบจะไม่ได้เกิดขึ้นเลย! ในตอนแรก Gordon Murray ผู้เป็นดีไซเนอร์ของ McLaren F1 ไม่ต้องการให้รถของเขาลงแข่งขันในสนามแข่ง แต่ลูกค้าบางราย โดยเฉพาะ Ray Bellm นักขับที่เป็นส่วนสำคัญในทีม ก็อยากให้ McLaren สร้างรถรุ่นนี้สำหรับการแข่งขัน McLaren จึงตัดสินใจสร้าง F1 GTR อย่างเร่งด่วน เพื่อแข่งขันในสนาม

ผลลัพธ์ที่ได้คือความสำเร็จที่ไม่น่าเชื่อ—F1 GTR คว้าชัยชนะในรายการ 24 ชั่วโมงแห่ง Le Mans ครั้งแรกในปี 1995 และความสำเร็จนั้นทำให้ McLaren พัฒนารถรุ่นนี้ต่อในปี 1996 แม้ว่า Porsche 911 GT1 จะทำให้ F1 GTR มีความล้าหลังในช่วงเวลานั้น McLaren ก็ไม่ยอมแพ้และทำการปรับปรุงรูปร่างของรถให้ยาวขึ้นและปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รถที่ปรากฏในวิดีโอคันนี้คือ F1 GTR ปี 1997 ที่ถูกปรับให้สามารถใช้งานบนท้องถนนได้ พร้อมสีลวดลาย Gulf ที่โด่งดัง

2. McLaren P1 GTR: การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีไฮบริดและประสิทธิภาพ

McLaren P1 GTR ถือเป็นการต่อยอดจาก P1 รุ่นปกติ ซึ่งเป็นรถไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสุดยอด โดยการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถรุ่นนี้มีความเร็วและสมรรถนะที่ทรงพลัง การออกแบบของ P1 GTR ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานในสนามแข่งเท่านั้น แต่ก็ได้รับการแปลงสภาพให้สามารถใช้บนถนนได้โดยบริษัท Lanzante ที่ช่วยทำให้รถรุ่นนี้สามารถขับขี่บนถนนทั่วไปได้

แม้จะสามารถขับบนถนนได้ แต่ P1 GTR ก็ยังคงมีการออกแบบที่มุ่งเน้นไปที่การขับขี่ในสนามแข่งอย่างเต็มที่ ความสามารถในการเร่งความเร็วและการควบคุมรถที่แม่นยำทำให้ P1 GTR เป็นหนึ่งในรถที่มีความเร็วสูงสุดในกลุ่ม

3. McLaren Senna GTR: รถที่พร้อมลุยในสนามแข่ง

McLaren Senna GTR คือรถที่มีความมุ่งมั่นในการออกแบบสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยมีการออกแบบเพื่อให้มีน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่บนสนาม McLaren สร้าง Senna GTR ให้มีการพัฒนาระบบอากาศพลศาสตร์ที่รุนแรง รวมถึงเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร แบบเทอร์โบคู่ที่ให้พละกำลังมากกว่า 800 แรงม้า รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้ในสนามแข่งเท่านั้น แต่ถูกแปลงให้สามารถขับขี่บนถนนได้เช่นเดียวกับ P1 GTR โดย Lanzante

แม้ว่าจะสามารถใช้งานบนท้องถนนได้ Senna GTR ก็ยังคงเป็นรถที่มีความเข้มข้นและมุ่งเน้นการขับขี่ที่ท้าทาย สำหรับนักขับที่ต้องการประสบการณ์สุดขีดในการควบคุมรถบนสนาม

4. การเปรียบเทียบ: GTR รุ่นไหนดีที่สุด?

ทุกคันในตระกูล McLaren GTR มีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว McLaren F1 GTR ยังคงถือเป็นรถที่โดดเด่นที่สุดในแง่ของการแข่งและการมีประวัติศาสตร์ในวงการแข่งรถ ด้วยเครื่องยนต์ V12 และสัญลักษณ์ที่สำคัญในตำนาน Le Mans

ส่วน P1 GTR เป็นรุ่นที่ผสมผสานเทคโนโลยีไฮบริดและความเร็วอันทรงพลัง แต่ถ้าอยากได้รถที่ตอบโจทย์ในการขับขี่ในสนามแข่งแบบสุดๆ Senna GTR อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด ด้วยสมรรถนะที่สูงสุดในแง่ของการขับขี่ทางเทคนิคและการจัดการกับสนาม

แต่ละคันนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะทุกคันล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ตามความต้องการและความชอบของผู้ขับขี่

เหตุผลที่คุณควรดูวิดีโอของ Henry Catchpole
การเปรียบเทียบของ Henry Catchpole ระหว่าง McLaren GTR ทั้ง 3 รุ่นนี้ทำให้คุณได้เห็นภาพรวมของแต่ละคันได้อย่างชัดเจน การพูดถึงประวัติความเป็นมาของแต่ละรุ่นและการทดสอบในสนามจริงจะทำให้คุณเข้าใจถึงความพิเศษของรถแต่ละคันอย่างแท้จริง ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ McLaren หรือรถสปอร์ตสุดพิเศษ การรับชมวิดีโอนี้จะทำให้คุณเข้าใจถึงมรดกที่ยิ่งใหญ่ของ McLaren GTR ได้อย่างลึกซึ้ง

 

 

 

แหล่งที่มา : motor1

บทความที่น่าสนใจ

เผยทีละนิด! BMW iNext จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบโค้งขนาดใหญ่สุดทันสมัย

idiot

ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ทุ่มงบพันล้านเสริมแกร่งอุตสาหกรรม EV ไทย พร้อมเปิดตัว “IONIQ 5N” สร้างนิยามใหม่ของรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง

admin bell

FIT Auto ห่วงใยทุกการเดินทาง มอบโปรโมชั่นสุดคุ้มรับหน้าร้อน กับ FIT Holiday เฮ 5 คุ้ม!!

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy