ความสำเร็จของ Lamborghini ครั้งนี้ คือการผลิต Aventador ครบคันที่ 10,000 ในโรงาน Sant’Agata Bolognese และคันที่ 10,000 นี้มันคือ SVJ Roadster ที่มาในสี Grigio Acheso (สีเทา) ตกแต่งภายในแบบ Rosso Mimir (สีแดง) และที่สำคัญไปกว่านั้น รถคันนี้กำลังจะถูกส่งมอบให้ผู้ครอบครองชาวไทย
สำหรับเจ้า Aventador SVJ Roadster คันนี้ เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจาก เครื่องยนต์ 6.5 ลิตร กำลัง 759 แรงม้า (566 กิโลวัตต์) และแรงบิด 531 ปอนด์ฟุต (720 นิวตันเมตร) จับคู่กับระบบส่งกำลัง เกียร์บ็อกซ์ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำความเร็ว 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-100 กม. / ชม.) ใน 2.9 วินาทีและสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 217 ไมล์ต่อชั่วโมง (350 กม. / ชม.)
จุดเริ่มต้นของ Aventador นั้นย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ทางค่ายตัดสิดใจนำโมเดล LP700-4 Coupe เข้าสู่สายการผลิต และตามมาติด ๆ ด้วย รุ่น Roadster ในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 จากนั้นไม่นาน Aventador J ได้ปรากฏตัวขึ้นที่เจนีวา มันคือ speedster ที่มีกำลังกว่า 690 แรงม้า (515 กิโลวัตต์) ความเร็วสูงสุดมากกว่า 186 ไมล์ต่อชั่วโมง (300 กม. / ชม.)
การเดินทางในครั้งนี้ยังคงดำเนินต่อ Lamborghini เปิดตัว Aventador S ออกมาในปี 2016 ด้วยการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ ระบบช่วงล่างกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ ขับเคลื่อนด้วยด้วยเครื่องยนต์ V12 กำลัง 730 แรงม้า (544 กิโลวัตต์) และล่าสุด Aventador SVJ ได้ถือกำเนิดมาพร้อมกับการทำลายสถิติใหม่บน Nurburgring ที่สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ยาว 16.5 ไมล์ (26.6 กม.) ใน 6 นาที และ 44.97 วินาที โดย Super Veloce Jota (SVJ) มีเป้าหมายการผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 900 คัน ในขณะที่รุ่นพิเศษอย่าง SVJ 63 นั้นมีเป้าการผลิตเพียง 63 คันในรุ่น Coupe และ 63 คันในรุ่น Roadster
ที่มา : carscoops