ระบบเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) ถือได้ว่าเป็นระบบความปลอดภัยขึ้นพื้นฐานที่มาพร้อมกับรถยนต์แทบทุกรุ่นในปัจจุบัน ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการทำงานของระบบ ABS นั้นจะทำการจับและปล่อยเบรกด้วยความถี่ราวๆ 20-50 ครั้งต่อวินาที ซึ่งจะช่วยให้ล้อไม่ล๊อคและสามารถขับขี่ผ่านอุปสรรคเมื่อต้องการเบรกฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย
Scott Mansell นักแข่งรถมืออาชีพและเจ้าของช่อง Youtube : Driven Media ได้พยายามค้นหาว่านักขับฝีมือดี จะสามารถหยุดรถที่ไม่มีระบบ ABS ได้เร็วกว่านักขับทั่วไปที่เบรกโดยใช้ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) หรือไม่ ?
Mazda MX-5 ได้ถูกนำมาทดสอบการเบรกในครั้งนี้ โดยจะมีผู้ทดสอบจำนวน 2 คน โดย Will จะเป็นคนขับรถทั่วไปที่มีทักษะการเบรกแบบมาตรฐาน และ Scott เป็นนักขับและนักแข่งมืออาชีพ โดยจะแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 แบบนั่นก็คือการเบรกโดยใช้ ABS และไม่ใช้ ABS และจะทำการทดสอบอย่างละ 5 ครั้งเพื่อหาค่าเฉลี่ยว่ารถใช้ระยะเมื่อเริ่มเบรกจนถึงจุดหยุดนิ่งอยู่ที่กี่เมตร
เริ่มกันที่ Will ซึ่งเป็นคนขับรถทั่วไป เขาสามารถเบรกโดยมีระบบ ABS ช่วยเหลือได้ระยะทางเฉลี่ยอยู่ที่ 34.73 เมตร และเมื่อทดสอบการเบรกโดยไม่มีระบบ ABS เขากลับทำระยะทางเฉลี่ยได้ที่ 42.66 เมตร ซึ่งการเบรกของ Will นั้นก็กดเบรกแบบเต็มแรง 100% เนื่องจากเขาเป็นคนขับรถทั่วไปที่ไม่ได้มีทักษะการควบคุมน้ำหนักเบรกแต่อย่างใด
มาถึงคิวของ Scott นักแข่งมากประสบการณ์ โดยเขาสามารถเบรกโดยไม่มีระบบเบรก ABS ช่วยเหลือได้ระยะทางเฉลี่ยอยู่ที่ 39.66 เมตร ซึ่งใช้ระยะทางมากกว่าการเบรกโดยนักขับทั่วไปที่มีระบบ ABS ช่วยเหลือมากถึง 5 เมตร ซึ่งหากสังเกตเท้าของ Scott จะเห็นได้ว่าเมื่อเขาเบรกจะมีการควบคุมน้ำหนักเบรกไม่ให้ล้อล๊อคนั่นเอง
ถึงแม้ว่าการทดสอบในครั้งนี้จะไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่า คนสามารถควบคุมเบรกได้ดีกว่าระบบ ABS จริงหรือไม่ เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งผ้าเบรกที่ผ่านการเบรกมาอย่างหนักก่อนที่ Scott จะทำการทดสอบ รวมถึงสภาพอากาศ และสภาพถนน แต่ก็เห็นได้ว่าระบบ ABS (Anti-Lock Brake System) ช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกคนหยุดรถได้อย่างมั่นใจ แถมยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล รูปภาพ และคลิปวีดีโอจาก : carscoops.com / youtube : Driven Media