หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Honda CR-V เจอเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดก็ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยการเปิดตัวในครั้งนี้จะเป็นสเปกสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา พร้อมกับการอัพเกรดสมรรถนะในหลายจุดให้เหนือกว่า
สำหรับ CR-V รุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 นับตั้งแต่การมาถึงของ CR-V รุ่นแรกในปี 1995 โดยรถยนต์รุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นรถอีกรุ่นของทางฮอนด้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และสามารถสร้างรายได้ให้กับฮอนด้าได้ไม่น้อย
มิติตัวถังของ Honda CR-V ใหม่
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะพบว่า CR-V ใหม่มีความกว้างเพิ่มขึ้น 10 มิลลิเมตร ยาวเพิ่มขึ้น 69 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 40 มิลลิเมตร
การดีไซน์ภายนอกของ CR-V ใหม่นั้นได้รับแรงบรรดาลใจมากจาก Honda Ridgeline และ Honda Passport TrailSport รถกระบะและเอสยูวีขนาดใหญ่ที่ทำตลาดในสหรัฐอเมริกา โดยตัวรถถูกออกแบบให้รูปทรงมีความแข็งแรง ดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเหลี่ยมสันบริเวณกันชนหน้าและหลัง เสริมด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ตามสมัยนิยม และกันชนหน้าที่ดูทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น รวมถึงไฟท้ายแบบตั้งที่ได้รับการปรับปรุงให้มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของรถคันนี้คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าทางฮอนด้ายังของเลือกใช้การดีไซน์สหกรณ์ร่วมกับ Honda Civic หรือ Honda HR-V แต่ก็ได้มีการปรับปรุงในหลายจุดให้มีความหรูหราและเหมาะสมกับตัวรถมากยิ่งขึ้น โดยในรุ่น EX และ Sport จะได้หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 7 นิ้ว ส่วนในรุ่น EX-L และ Sport Touring จะได้รับหน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้วพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย 15W และในรุ่นท๊อปอย่าง Sport Touring จะได้ระบบเครื่องเสียงจาก Bose 12 ทิศทางอีกด้วย
ออปชั่นความปลอดภัยถือเป็นอีกจุดขายสำหรับรถรุ่นนี้ โดยมันจะมาพร้อมกับระบบ Honda Sensing รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะมาพร้อมกับกล้อง มุมกว้าง 90 องศาใหม่และเรดาร์คลื่น 120 องศา ซึ่งจะช่วยให้ระบบช่วยเหลือทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับโหมดช่วยเหลือการขับขี่มากมายไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ , ระบบจดจำป้ายจราจร , ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปนผัน และ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ
ขุมพลังของ Honda CR-V สำหรับตลาดอเมริกาจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกันดังต่อไปนี้
1. รุ่น EX และ EX-L จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1.5 ลิตรพ่วงด้วยระบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตรที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT
2. รุ่น Sport และ Sport Touring จะมาพร้อมกับขุมพลังเบนซินไฮบริด Atkinson cycle ความจุ 2.0 ลิตร เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งให้กำลังรวมสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 335 แรงม้าที่มีให้เรียกใช้ตั้งแต่ 0 – 2,000 รอบ/นาที
สำหรับ New CR-V จะเริ่มทำตลาดในสหรัฐอเมริกาในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยขุมพลังไฮบริดจะตามมาภายหลังในช่วงปลายทีนี้ และสำหรับเมืองไทยคาดว่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : carscoops.com / motor1.com