fbpx

เปิดตัว New BMW Series 5 ยนตรกรรมสุดหรูดีไซน์ใหม่ เริ่มต้น 2.999 ล้านบาท

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อสำเร็จสู่ศักราชใหม่ด้วยยนตรกรรมระดับผู้บริหารในตำนานรุ่นล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ (New BMW Series 5) ที่กลับมาอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 7 ซึ่งมีให้เลือกสามรุ่นย่อย ได้แก่ BMW 520d M Sport, BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport 

การเปิดตัว New BMW Series 5 มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างไปจากทุกครั้ง “Change the way you lead. Lead the way you change.” ซึ่งครั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยูต้องการเน้นย้ำถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่าเพียงแค่ด้านยนตรกรรม เพื่อให้ผู้ขับขี่บีเอ็มดับเบิลยูได้สัมผัสโลกที่มีความสมดุลของการใช้ชีวิตในหลากหลายด้าน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลกปัจจุบัน

ไฮไลท์อันโดดเด่นของ BMW Series 5 เจเนอเรชั่นที่ 7 นี้ สร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยดีไซน์ภายนอกที่สะดุดตา เส้นสายทรงพลังทั้งบริเวณด้านหน้าและท้ายรถ มาพร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ ยาวลงมาบรรจบกับกันชนหน้า ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ส่วนบนของซี่ในกระจังหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย สร้างมิติที่สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L ในดีไซน์เรียวยาว สร้างความดุดันยิ่งขึ้น ช่องดักอากาศแนวตั้งทั้งสองข้างบนกันชนหน้าเสริมความโดดเด่นให้แก่การเล่นเส้นสายของดีไซน์แบบใหม่ เน้นย้ำถึงความสง่างามและทรงพลังกว่าที่เคย

ดีไซน์ด้านท้ายรถสื่อถึงรูปลักษณ์ที่ผสานความสง่างามและล้ำสมัยด้วยเส้นสายที่คมชัดและทรงพลังเช่นเดียวกัน ไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L รับกับไฟหน้า โฉบเฉี่ยวด้วยกรอบสีดำ สร้างความสะดุดตาบนท้องถนน โดยทั้งไฟท้ายและไฟเบรกได้รับการออกแบบมาให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ทำให้  BMW Series 5 ใหม่ มีรูปโฉมที่ไม่ซ้ำใคร เสริมลุคสปอร์ตด้วยท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ท้ายรถทั้งสองด้านซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของกันชนท้ายไว้ได้อย่างลงตัว

มิติตัวรถที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า 27 มิลลิเมตร ทำให้ BMW Series 5 ใหม่ มีความยาว 4,963 มิลลิเมตร แต่ยังคงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ไว้ได้อย่างเหนือชั้น ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน (Cd) เพียง 0.23 มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น 520d M Sport และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Y-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 530e M Sport ขณะที่รุ่น 530e Elite มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke

BMW Series 5 ใหม่ มอบประสิทธิภาพเต็มพิกัดจากทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด โดยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบใน BMW 520d M Sport ส่งพละกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งให้ตัวรถเคลื่อนจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.5 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะที่ BMW 530e Elite และ 530e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบที่มอบพละกำลัง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที เมื่อขับขี่ในโหมด SPORT จึงสามารถโลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยสามารถขับขี่แบบไร้มลพิษได้เป็นระยะทาง 52 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง นอกจากนี้  BMW Series 5 ใหม่ ในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดทั้งสองรุ่น ยังมีระดับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่ำเพียง 41 กรัมต่อกิโลเมตรตามการอ้างอิงผล ECO Sticker ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่ในประเทศไทย

BMW Series 5 ใหม่ ยังมาพร้อมการควบคุมที่เฉียบคมและโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกันรุ่นก่อนหน้า ฐานล้อที่ยาวและกว้าง รวมทั้งการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ช่วงล่างมาพร้อมเพลาหน้าแบบปีกนกคู่และเพลาหลังแบบ five-link จึงขับขี่ได้อย่างนุ่มสบายทั้งในชีวิตประจำวันและขณะเดินทางไกล รวมถึงในการขับขี่ที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง

นอกจากนี้ BMW 530e M Sport ยังพกพาระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งล้อหลังมาช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังช่วยเสริมความคล่องตัวขณะเข้าจอด โดย BMW 530e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ขณะที่รุ่น 520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport

เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน BMW Series 5 ใหม่ ได้รับการยกระดับให้ล้ำสมัยยิ่งกว่าที่เคย เพื่อช่วยเหลือการขับขี่ในสภาวะที่หลากหลาย พร้อมปูทางสู่เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ BMW 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในสภาวะต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ใน BMW 530e M Sport และระบบควบคุุมความเร็วคงที่่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ใน BMW 520d M Sport และ 530e Elite รวมถึงระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่่ (Attentiveness Assistant) ในทั้งสามรุ่น

ทั้งนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยอีกมากมายในทุกรุ่นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น เซนเซอร์ควบคุุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบ Active Protection และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) และสำหรับ BMW 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายโดยเฉพาะขณะถอยจอดและจอดขนาน

อีกหนึ่งความโดดเด่นของ BMW Series 5 ใหม่ คือการออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่ยังคงเน้นการผสานทั้งความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยปุ่มบริเวณคอนโซลกลางมาในสีดำเงาเพื่อความหรูหรา ตัดกับพวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น M Sport พร้อมคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport ทั้งสามรุ่นมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารของ BMW 520d M Sport และ 530e M Sport ตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมี่่ยม ขณะที่ BMW 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียม

BMW Series 5 ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาในด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดย BMW 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด BMW Operating System 7 ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) โดยรองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์ ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ระบบการเชื่อมต่อ และระบบนำทางได้ผ่านทางจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบ iDrive ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control

สำหรับราคา BMW Series 5 ใหม่

  • BMW 530e Elite ในราคา 2,999,000 บาท
  • BMW 520d M Sport ในราคา 3,539,000 บาท
  • BMW 530e M Sport ในราคา 3,739,000 บาท

โดยทั้งสามรุ่นมาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ซึ่งครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ทั้งสามรุ่นยังมีให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ Alpine White, Black Sapphire metallic, Bluestone metallic และ Phytonic Blue รวมทั้งสี Bernina Grey Amber effect สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และ 530e M Sport 


 

บทความที่น่าสนใจ

ยืนยันแล้ว! Honda e จะมาพร้อมกล้องมองข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

idiot

พบกับ New Aion Hyper SSR ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าจากจีน ทำ 0-100 ได้ภายใน 1.9 วิ!

idiot

เปิดประสบการณ์ “NEW MG V80” LET’S MOVE : ไปด้วยกันได้มากกว่า ความรู้สึกดีๆ ก็มากขึ้น 

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy