BMW มีแผนเตรียมปลดประจำการเครื่องยนต์ดีเซล ควอท-เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตรในเดือนกันยายนนี้ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นค่ายใบพัดสีฟ้าได้ทำการสั่งลาด้วยการนำเสนอรุ่นพิเศษให้กับ X5 M50d และ X7 M50d ในชื่อ Final Editions
X5 M50d และ X7 M50d Final Edition ถูกเพิ่มความพิเศษด้วยแผ่นป้ายคำว่า ‘Final Edition’ ที่ชายบันได, ไฟหน้าเลเซอร์ไลท์, ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ, เฮดอัพดิสเพลย์, เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม Harman Kardon, กระจกบังลมแบบกันเสียงรบกวน และตกแต่งภายในด้วยวัสดุผลึกแก้ว ‘Crafted Clarity’ เป็นต้น
ด้านขุมพลังในรุ่น X5 M50d ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ควอท-เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ภายใน 5.2 วินาที และท็อปสปีด 250 กม.ต่อชม.
สำหรับรุ่นใหญ่ขึ้นมาอย่าง X7 M50d ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันให้แรงม้าและแรงบิดเท่ากัน แต่ด้วยน้ำหนักที่มากกว่า ส่งผลให้ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ได้มากกว่า 0.2 วินาที อยู่ที่ 5.4 วินาที ขณะที่ท็อปสปีดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม.ต่อชม.เท่ากัน
BMW X5 M50d และ X7 M50d Final Editions จะมีวางจำหน่ายเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปตะวันออกเท่านั้น แน่นอนถ้าหากคุณไม่ได้อาศัยอยู่แถบนั้นก็คืออด