เสียงล้อเครื่องบินแตะ รันเวย์ พร้อมตัวผมที่กระเด้งไปตามแรงกระแทก ทำให้หูตาสว่าง หลังจากที่ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อเดินทางมาขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง โดยมีจุดหมายปลายทางที่เมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ นครวัด อารยธรรมโบราณติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
การเดินทางมากัมพูชาครั้งนี้ ค่อนข้างจะสร้างความแปลกใจให้กับผมไม่น้อยกับความทันสมัยของสนามบินนานาชาติของกัมพูชาที่เสียมราฐแห่งนี้ ดูทันสมัยและสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว แบบที่สนามบินต่างจังหวัดบ้านเราต้องมีอายแน่ๆ ห้องน้ำห้องท่าที่สะอาดใช้ได้ เข้าไปใช้บริการได้แบบที่ไม่ต้องเบะปาก แต่เรื่องของการให้บริการของเจ้าหน้าที่ยังต้องปรับปรุงอีกมาก ซึ่งก็ไม่ค่อยแปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก
ออกจากสนามบินเราก็พบกับแสงแดดอันแสนร้อนแรงของกัมพูชาที่ทำหน้าที่แผดเผาผิวของเราได้อย่างดีเยี่ยม หมวก แว่นกันแดด เสื้อแขนยาวถูกนำมาใส่กันอย่างพร้อมพรั่ง ในระหว่างที่เราเดินมาขึ้นรถโดยสารแบบเหมาคัน เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน และพบปะกับ คาราวาน CR-V Reach Out ก้าวออกไปให้ไกลกว่าจินตนาการ ซึ่งบริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดให้กับ ลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และสื่อมวลชน ร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ของ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ บนเส้นทางเชื่อมโยงอารยธรรมโบราณ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร
ผมเป็นกลุ่มสื่อมวลชนกลุ่มที่ 2 ที่มารับไม้ต่อจากกลุ่มแรกที่ขับ ฮอนด้า ซีอาร์-วีใหม่ มาตั้งแต่กทม. พร้อมกับลูกค้าฮอนด้า ซีอาร์-วีใหม่ จำนวน 10 คัน โดยการเปลี่ยนไม้นี้ มาเปลี่ยนมือกันที่ ประเทศกัมพูชาครับ ซึ่งทริปนี้ใช้เวลาในการเดินทางทั้งทริปนานถึง 5 วัน ผ่าน 3 ประเทศ ระยะทาง 1,200 กิโลเมตร อย่างที่บอกไว้ในตอนต้น ถือว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดใช้ได้เลยครับ และแน่นอนครับ ลูกค้าจะได้รับรู้ถึงสมรรถนะของรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ว่าพาคุณไปได้ไกลมากกว่าที่คุณคิด
กิจกรรม CR-V Reach Out ก้าวออกไปให้ไกลกว่าจินตนาการ ในครั้งนี้เรามีขบวนรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มากันครบทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC พร้อมระบบเกียร์ CVT และรุ่น เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO
ในช่วงต้นคาราวาน ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เดินทางตั้งแต่ กรุงเทพฯ สู่จุดหมายแรกที่จังหวัดสระแก้ว ก่อนข้ามพรมแดนไทยสู่ประเทศกัมพูชา ณ ด่านพรมแดนคลองลึก และมาท่องเที่ยวชมโบราณสถานอันเลื่องชื่อของขอมโบราณ ได้แก่ ปราสาทนครวัด หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ปราสาทนครธม เมืองเก่าแก่ที่มีปราสาท พระราชวัง และประติมากรรมงดงามจำนวนมาก ซึ่งน่าอิจฉาเหลือเกินนนนน เพราะคณะของผมไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมครับ
ก็เรามาถึงเอาเที่ยงวันกันแล้วครับ ขบวนคาราวาน CR-V Reach Out เขาเข้าชมกันไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ก็เลยอดไปตามระเบียบ แต่ไม่เป็นไรในทริปของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกไม่น้อยเลยครับ แถมเด็ดเสียด้วยสิ
เราปล่อยให้สื่อมวลชนกลุ่มแรกดื่มด่ำไปกับความงดงามของอารยธรรมนี้กันอย่างเต็มอิ่มกันไปก่อน เรามาเจอกับกลุ่มแรกที่ร้านอาหารใกล้ๆ กับนครวัดครับ ซึ่งอาหารมื้อแรกที่กัมพูชา บอกได้เลยว่าทางทีมงานฮอนด้า เตรียมไว้อย่างดีมากครับทั้งตัวร้านอาหารที่ดูดี หรูหรา แถมอาหารยังถูกปากไม่ต้องกังวลว่าจะทานกันแบบแหยงๆ เพราะผมเห็นลูกค้าฮอนด้า CR-V ในขบวนจ้วงข้าวเหนียว ข้าวเจ้า มือเป็นระวิง เลยทีเดียว รวมถึงคณะสื่อมวลชนเองก็ไม่น้อยหน้าครับ ตั้งหน้าตั้งตาจ้วงใช่ย่อยเหมือนกัน
เมื่อท้องอิ่มกันแบบที่ไม่เหลือกับข้าวบนโต๊ะไว้ให้ใครได้ทานมื้อต่อไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ โดยเพื่อนคู่ใจร่วมเดินทางของผมในทริปนี้ คือ ฮอนด้า CR-V รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรนั่นเอง สบายเลยครับทั้งในเรื่องของความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร ความกว้างของพื้นที่เก็บสัมภาระที่เราขนกระเป๋าเดินทาง 3 ใบเก็บด้านหลังรถได้แบบเหลือเฟือ แถมยังเหลือพื้นที่ให้ทีมงานเอาน้ำดื่มมาใส่ไว้อีกหลายโหลด้วยสิ
ขบวนคาราวาน CR-V Reach Out เริ่มเดินทางในช่วงบ่าย โดยมีจุดหมายคือ ปราสาทเกาะแกร์ อืม…..แค่ชื่อก็ชวนสงสัยแล้วว่า เกาะแก หรือ เกาะข้าหว่า……เราใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง บนถนนเลนเดียวของประเทศกัมพูชา ที่แม้ว่าจะไม่มีรถสวนมามากนัก แต่เราก็ไม่ได้สามารถทำความเร็วอะไรได้มากนัก เพราะเราต้องระวังผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกับเราก็คือ ฝูงวัว ที่ชอบมาเดินเล่นกันเต็มถนนอยู่เรื่อย ทำให้ขบวนต้องจอดหลบ จอดรอ ฝูงวัวตัวร้ายกันหลายต่อหลายครั้ง
ผมขับฮอนด้า CR-V รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ไปแบบชิล ชิล ไม่เมื่อยไม่เหนื่อยอะไรมากนักครับ 2 ชั่วโมงแป๊ปเดียวเอง ต้องยอมรับว่า ฮอนด้า CR-V ใหม่นี้ ห้องโดยสารกว้างขวางดีทีเดียว แถมเบาะนั่งของคนขับก็นั่งสบายมากทีเดียว คือตัวเบาะทำมาใหญ่ดีครับ รองรับสรีระของเราได้พอดิบพอดี แอร์ก็เย็น เครื่องเสียงภายในรถก็แจ่ม เหมาะกับการเดินทางไกลจริงๆ
และแล้วเราก็มาถึง ปราสาทเกาะแกร์ แล้วครับ โดยทริปนี้ เราได้รับเกียรติจาก อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ มาให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่โบราณแห่งดินแดนขอม ที่แสนมีสเน่ห์แห่งนี้ ซึ่ง อ.เผ่าทอง มาบรรยายตั้งแต่ ปราสาทนครวัด แล้ว แต่คณะของผมเพิ่งมีโอกาสได้ฟังท่านอาจารย์ บรรยายความเป็นมา ของปราสาทเกาะแกร์ ว่าเป็นอย่างไร
ปราสาทเกาะแกร์ นั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า พีระมิดขอมเกาะแกร์ มีชื่อเดิมตามภาษาท้องถิ่นว่า โฉกครรคยาร์ มีความหมายถึงเกาะแห่งความรุ่งโรจน์หรือเกียรติยศ พีระมิดนี้ ได้เริ่มการก่อสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 1464 ในสมัยพระเจ้าชัยสิงหวรมันหรือชัยวรมันที่ 4 (บรมศิวบท) นั่นเอง
ปราสาทแห่งนี้ ถูกค้นพบโดยนักค้นคว้าชาวฝรั่งเศส ในช่วงทศวรรษที่ 2400 ได้เดินทางมาสำรวจอารยธรรมขอมโบราณ และได้พบนครร้างกลางป่าอย่าง โฉกครรคยาร์ ทำให้นครร้างแห่งนี้กลับมามีลมหายใจอีกครั้งหนึ่ง และวันนี้คาราวาน CR-V Reach Out ก็นำพาเรามาได้เจอกับนครร้างแห่งนี้
เราต้องเดินฝ่าซากปรักหักพัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแห่งนี้ ที่บอกให้เราได้รู้กลายๆ ว่าในอดีตที่แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองแค่ไหน และเมื่อเราก้าวเท้าพ้นซากปรักหักพัง เราก็ต้องตื่นตะลึงกับ พีระมิด ขนาดใหญ่ ตั้งเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้าคณะของเรา
เราต้องแหงนคอตั้งบ่าทีเดียวเพื่อที่จะมองให้เห็นยอดของพีระมิด เกาะแกร์ ซึ่งต้องยอมรับครับว่าทางการของ กัมพูชา ดูแล ปราสาทเกาะแกร์ไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะที่ตัวพีระมิด ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าจะมีร่องรอยของกระสุนปืน และระเบิด ที่บอกเรื่องราวความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อยก็ตาม
เมื่อมาถึงแล้ว เราก็ต้องขอขึ้นไปบนยอดพีระมิดกันหน่อย ถ้าเป็นในอดีต กษัตริย์จะเสด็จไปทำพิธีบนยอดปราสาทผ่านบันไดหินเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้าปราสาท คล้ายกับถนนสู่สรวงสวรรค์ แต่ในวันนี้การขึ้นไปบนยอดปราสาท ต้องใช้ทางเดินด้านหลังที่ถูกจัดเตรียมขึ้นมาใหม่ ที่เดินสบายขึ้น แต่ก็สูงชันไม่ใช่เล่น แถมทางเดินแคบนิดเดียวอีก และขอเตือนเลยว่า ผู้สูงอายุควรเปิดวาร์ป ข้ามจุดนี้ไปได้เลยครับ
แต่….คณะคาราวานของ CR-V Reach Out ไม่มีใครแก่ครับ เดินขึ้นไปบนยอดปราสาทกันทุกคน แต่กว่าจะถึงยอดปราสาทเล่นเอาเหงื่อหยด แถมมาถึงแล้วไม่มีใครคุยอะไรกันเท่าไหร่ เอาแต่หอบหายใจหนักๆ กันทั้งนั้น
ด้านยอดปราสาทนั้น เดิมทีเป็นที่ตั้งของ ศิวลึงค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนขอม ที่ต้องตั้งอยู่บนยอดสุดของปราสาท แต่ในวันนี้ไม่ปรากฏว่ามีอยู่ เห็นแต่ฐานของศิวลึงค์ ซึ่งก็น่าจะเสียหายจากการสู้รบที่ผ่านมา เพราะบนยอดปราสาทนี้เรายังเห็นร่องรอยความเสียหายอยู่ไม่น้อย
นั่งชมความงาม ชมวิว พร้อมเติมพลังจากยอดปราสาทเกาะแกร์ จนพระอาทิตย์คล้อยต่ำลงมาไม่น้อย จนทีมงานต้องออกโรงเร่งให้เราต้องรีบเดินทางไปยังที่พักซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ทำให้เราจำเป็นต้องทิ้งภาพความงดงามบนยอดปราสาท รวมไปถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโบราณนี้ไว้เบื้องหลัง
ช่วงสุดท้ายของการเดินทางในวันนี้ ยังเป็นไปแบบสบายๆ แม้ว่าเราต้องใช้ความเร็วกันมากกว่าปกติเพื่อที่จะได้ถึงที่พักไม่มืดจนเกินไปนัก ก็ต้องยอมรับครับว่า เจ้าฮอนด้า CR-V ใหม่นี้ ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมทีเดียว เห็นหน้าตาหวานๆ อย่างนี้วิ่งบุกตะลุยไปบนท้องถนนโหดๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งทางลาดยาง ทางฝุ่น ทางลูกรัง ลุยสบายหายห่วง เป็นคุณหนูสายลุยได้เลย
บอกได้เลยว่าถนนหนทางในกัมพูชา ไม่ใช่ทางคอนกรีต แต่เป็นทางลูกรังและทางลาดยางแบบมีหลุมบ่อพาดผ่านเต็มไปหมด ช่วงล่างของ ฮอนด้า CR-V ใหม่ ก็ทำหน้าที่เต็มที่ให้ความมั่นใจยามที่ต้องลุย แต่ยังให้ความนุ่มนวลตลอดระยะเวลาการเดินทาง
เดี๋ยวเรามาต่อตอน (2) ในวันที่เราไปเยือน เมืองลาวววว กันครับ