“สงครามราคา” เป็นสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยกำลังพบเจออยู่ในขณะนี้ เนื่องจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศเป็นหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น BYD , AION, MG และแบรนด์อื่นๆ ต่างก็ประกาศ “ลดราคา” รถยนต์ของตัวเอง เพื่อให้สามารถต่อสู้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดในประเทศไทยได้ โดยจากช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรได้มีการปรับลดราคารถยนต์ลงหลายครั้ง
ล่าสุด BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ได้ประกาศ ลดราคา ขายของ BYD Dolphin รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กที่ทำตลาดในประเทศไทยลงถึง 160,000 บาท ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 559,900 บาท ในรุ่น Standard Range และ 699,900 บาท ในรุ่น Extended Range (โปรโมชั่นถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยสาเหตุที่ทำให้ BYD จำเป็นต้องประกาศลดราคา Dolphin ในครั้งนี้ น่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้
BYD ประกาศลดราคาแบตเตอรี่ลง เมื่อไม่นานมานี้
ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลาย ๆ คนน่าจะได้เห็นข่าว BYD ประกาศ ลดราคา แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า BYD ลงทุกรุ่น โดยแบตเตอรี่ของ Dolphin นั้นมีการปรับลดราคาจาก 449,910 บาท ลดเหลือ 309,364.49 บาท (ส่วนต่าง 140,546 บาท) สำหรับรุ่น Standard Range และในรุ่น Extended Range มีการปรับลดราคาลงจาก 500,530 บาท เหลือ 378,102.80 บาท (ส่วนต่าง 122,427 บาท) ซึ่งการปรับลดราคารถ Dolphin ในครั้งนี้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับราคาแบตเตอรี่ที่ลดลงนั่นเอง
BYD มีแผนที่จะเดินสายการผลิตในประเทศไทย ในช่วงเดือนกรกฎาคม และน่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่น Minor Change
ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ BYD จะมีการเปิดตัวโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย และจะเริ่มเดินสายการผลิต BYD Dolphin อีกด้วย และคาดว่าน่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นปรับโฉม (Minor Change) ซึ่งหากมีการเปิดตัวรถรุ่นปรับโฉมจริง การปรับลดราคาในครั้งก็ เท่ากับว่าเป็นการ “เคลียสต๊อก” รถรุ่นเก่านั่นเอง
แน่นอนว่าการปรับลดราคา BYD Dolphin ในครั้งนี้ จะต้องมีรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีรุ่นไหนที่ได้รับผลกระทบบ้าง เราไปดูกันเลยครับ
Neta V-II
เริ่มกันที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็ก ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอย่าง Neta V-II (เจนเนอเรชั่นที่ 2) ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 549,000 บาท ในรุ่น Lite และ 569,000 บาท ในรุ่น Smart ซึ่งหากเปรียบเทียบ BYD Dolphin กับ Neta V-II จะพบว่าตัวรถที่ขนาดที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร รวมถึงพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ระยะทางที่วิ่งได้ และปัจจัยอื่นๆ ก็มีความแตกต่างกัน โดยเราขอนำสเปกโดยคร่าวๆ ของ BYD Dolphin Standard Range เปรียบเทียบกับ Neta V-II (Lite) ซึ่งมีราคาแตกต่างกันอยู่ 10,900 บาท
|
BYD Dolphin (Standard Range) |
Neta V-II (Lite) |
ความยาว |
4,290 มิลลิเมตร |
4,070 มิลลิเมตร |
ความกว้าง |
1,770 มิลลิเมตร |
1,690 มิลลิเมตร |
ความสูง |
1,570 มิลลิเมตร |
1,540 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ |
2,700 มิลลิเมตร |
2,420 มิลลิเมตร |
แรงม้าสูงสุด |
95 แรงม้า |
95 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด |
180 นิวตัน-เมตร |
150 นิวตัน-เมตร |
ระยะทางที่วิ่งได้ |
410 กิโลเมตร (NEDC) |
382 กิโลเมตร (NEDC) |
ราคา |
559,900 บาท |
549,000 บาท |
เมื่อเปรียบเทียบสเปกเบื้องต้นของรถทั้ง 2 คันจะพบว่า BYD Dolphin (Standard Range) มีความเหนือกว่าใมแทบทุกมิติ เมื่อเปรียบเทียบกับ Neta V-II (Lite) ไม่ว่าจะเป็นมิติตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่าในทุกมิติ ระยะทางที่วิ่งได้ รวมถึงแรงบิดที่มากกว่า
Changan Lumin
มาต่อกันที่น้องรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์น่ารัก หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันติดปากว่า “น้องง่วง” ที่ได้เปิดตัวไปในงาน Motor Show 2024 ที่ผ่านมา มีสองรุ่นย่อยให้เลือกได้แก่ Lumin L ราคา 479,000 บาท และรุ่น Lumin L DC ราคา 499,000 บาท โดยเราจะนำรถ BYD Dolphin (Standard Range) และ Changan Lumin L DC มาเปรียบเทียบกันครับ
|
BYD Dolphin (Standard Range) |
Lumin L DC |
ความยาว |
4,290 มิลลิเมตร |
3,270 มิลลิเมตร |
ความกว้าง |
1,770 มิลลิเมตร |
1,700 มิลลิเมตร |
ความสูง |
1,570 มิลลิเมตร |
1,590 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ |
2,700 มิลลิเมตร |
1,980 มิลลิเมตร |
แรงม้าสูงสุด |
95 แรงม้า |
48 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด |
180 นิวตัน-เมตร |
83 นิวตัน-เมตร |
ระยะทางที่วิ่งได้ |
410 กิโลเมตร (NEDC) |
301 กิโลเมตร (NEDC) |
ราคา |
559,900 บาท |
499,000 บาท |
จะเห็นได้ว่า Lumin L DC มีขนาดมิติของตัวรถที่เล็กกว่ามากในแทบทุกมิติ ยกเว้นความสูงที่มากกว่า 20 มิลลิเมตร แต่ก็มีราคาที่ต่ำกว่าอยู่ถึง 60,900 บาท
รถยนต์กลุ่ม ECO Car
มาถึงรถกลุ่มสุดท้าย ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามราคาในครั้งนี้ นั่นก็คือรถยนต์ในกลุ่ม ECO Car ที่มีเรตราคาอยู่ที่ 500,000 – 750,000 บาท ยกตัวอย่างเช่น Toyota Yaris ATIV รถซีดานขนาดเล็กยอดนิยม ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 549,000 – 699,000 บาท และ Honda City ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 599,000 – 799,000 บาท โดยการลดราคาของ Dolphin ในครั้งนี้ อาจทำให้หลาย ๆ คนที่กำลังสนใจซื้อรถยนต์ในกลุ่มนี้อยู่ อาจเกิดการเปลี่ยนใจหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแทนนั่นเอง
การประกาศสงครามราคาครั้งใหม่ของ BYD แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ที่มีเรตราคาใกล้เคียงกันอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีจุดเด่นอยู่ที่ค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่ารถยนต์สันดาป รวมถึงอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นกับตัวรถมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ โดยเฉพาะของ BYD ที่มีเจ้าของรถหลายท่านเจอกับปัญหา หนูแทะแบตเตอรี่ หรือจะเป็นปัญหาแบตเตอรี่เสียหาย จากการจอดรถตากฝน (เคสนี้ทาง BYD เคลมแบตเตอรี่ลูกใหม่ให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว) รวมถึงปัญหาการรออะไหล่ที่นานกว่าแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น ดังนั้นหากท่านกำลังมองหารถยนต์สักคันนึงในช่วงงบประมาณนี้ อยากให้พิจารณาการใช้งานและปัจจัยอื่นๆ อย่างรอบคอบ ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสมสำหรับท่านแล้วหรือไม่