ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะไม่สอดคล้องกับปริมาณการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์ แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ผู้ผลิตรายใหญ่ทุ่มลงไป อาจไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่อย่างที่พวกเขาคาดหวังได้
ตั้งแต่นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์ไปจนถึง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ทุกคนต่างมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นเป็นปัญหา “ผมกังวลเกี่ยวกับสภาพวะอัตราดอกเบี้ยสูงที่เราเผชิญอยู่” Musk กล่าวในรายงานผลประกอบการ “คนส่วนใหญ่ที่ซื้อรถยนต์ต่างเกี่ยวข้องกับการผ่อนชำระรายเดือน หากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงหรือสูงขึ้นไปอีก คนก็จะยิ่งซื้อรถยากขึ้น”
Tesla ได้ประกาศว่ากำลังชะลอแผนการสร้างโรงงานในเม็กซิโก โดย Musk มองว่าสภาพแวดล้อมทางการเงินในปัจจุบันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ในขณะเดียวกัน Honda และ General Motors ก็ได้มีการยกเลิกแผนร่วมกันพัฒนารถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าที่มีราคาไม่แพงซึ่งมีมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงทางค่ายวงรีสีฟ้าอย่าง Ford ได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการผลิต F-150 Lightning จะถูกชะลอลงชั่วคราวด้วย
ความต้องการที่ลดลงจากผู้ผลิตรถยนต์ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างรวดเร็ว ตามรายงานของ Reuters ราคาลิเธียมร่วงลง 67 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่โคบอลต์ลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023
ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ในจีนเอง CATL ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ กล่าวว่าไตรมาสที่ 3 ถือเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปี โดยอ้างถึงอุปสงค์ที่ลดลงและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น
แม้ว่าจะเิร่มมีสัญญาณเตือนบางอย่างดังขึ้นแล้วในอุตสาหกรรมยายนต์ แต่ทว่าตอนนี้ฝั่งผู้บริโภคอาจยังคงไม่รู้สึก เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีตัวเลขยอดขายค่อยๆ เพิ่มขึ้น ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ มียอดส่งมอบทะลุ 300,000 คันเป็นครั้งแรก ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 14.3 เปอร์เซ็นต์ และ 22 เปอร์เซ็นต์ในจีน
การทุ่มเงินลงทุนอย่างรวดเร็วในรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลในระยะยาวหรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป…