สาวอเมริกันวัย 27 ปี จากรัฐเท็กซัส ได้รับเงินชดเชยกว่า 37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) หลังคณะลูกขุนตัดสินให้ Honda เป็นฝ่ายผิดจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ซึ่งเป็นเหตุให้หญิงสาวรายนี้เป็นอัมพาตตลอดชีวิต
สำนักข่าว Dallas News รายงานว่า Sarah Milburn หญิงสาววัย 27 ปีจากรัฐเท็กซัส ได้เรียกใช้บริการ Uber ซึ่งมีรถยนต์ Honda Odyssey เป็นพาหนะให้บริการ หลังจากขับไปบนถนนคนขับรถ Uber คันดังกล่าว ได้พาเธอซิ่งฝ่าไฟแดงและชนเข้ากับรถกระบะ จนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากนั้นในช่วงปลายปี 2016 เธอและทนายได้ยื่นฟ้อง Honda พร้อมอ้างเหตุผลว่ามันเป็นที่ระบบเข็มขัดนิรภัยของ Honda Odyssey ที่ออกแบบมาไม่ดี จึงทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ และในตอนนี้เธอก็ต้องมาเป็นอัมพาต สามารถขยับได้เพียงแค่มือและแขนเล็กน้อยเท่านั้น
เข็มขัดนิรภัยเบาะที่นั่งตรงกลางแถวสามของ Honda Odyssey 2011 นั้นทำงานเหมือนรถคันอื่นๆ ในยุคเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้จะต้องดึงสายเข็มขัดลงมาจากเพดานแล้วยึดเข้ากับที่นั่ง แม้วิธีการใช้งานจะไม่ซับซ้อน แต่ผู้เชี่ยวชาญได้แสดงให้คณะลูกขุนเห็นว่ามีคนน้อยกว่าร้อยละ 10 ไม่คุ้นเคยกับการใช้เข็มขัดนิรภัยลักษณะนี้
หลังจากคำตัดสินของศาล Honda ก็ได้ออกแถลงการณ์เตรียมยื่นอุทธรณ์การตัดสินดังกล่าว พร้อมระบุว่า “การออกแบบระบบเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารที่นั่งตรงกลางแถวที่สามใน Odyssey 2011 เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของรัฐบาลกลางที่บังคับใช้ทั้งหมด และมีความคล้ายคลึงกันในการออกแบบเข็มขัดนิรภัยของรถมินิแวนในยุคนี้ ถ้าหากมีการใช้งานอย่างถูกต้อง จำเลยก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน”