fbpx

วินฟาสต์ VF 3 มินิเอสยูวีสุดฮ็อตกับสถิติยอดจองซื้อเฉลี่ยเจ็ดคันทุกหนึ่งนาทีที่เวียดนาม

วินฟาสต์ VF 3 คือมินิเอสยูวีรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวียดนาม และคาดว่ามีแนวโน้มจะทำยอดขายได้ดีไม่แพ้กันหากได้มาเปิดตัวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเมือง โดนใจคนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่มีความต้องการในการใช้ยานพาหนะที่เปลี่ยนแปลงไป

ด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มลดลง อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะชลอตัว เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ บริษัทรถยนต์ต่างๆ ต้องแก้เกมโดยมุ่งนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายรุ่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นที่มีราคาเข้าถึงได้ง่าย วินฟาสต์ก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีกรายซึ่งมุ่งใช้กลยุทธ์ดังกล่าว ด้วยการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่กำลังซื้อแตกต่างกันไป และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับมินิเอสยูวีไฟฟ้ารุ่น VF 3  ใหม่ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมในเวียดนาม ด้วยยอดสั่งซื้อล่วงหน้าโดยเฉลี่ยเกือบ 7 คันต่อนาที

VF 3 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวินฟาสต์ในการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเดินทางที่หลากหลายของผู้บริโภค

VF 3 ออกแบบเพื่อการขับขี่ในเมือง เจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่

ด้วยยอดจองซื้อล่วงหน้าแบบไม่คืนเงินจำนวน 27,649 คันภายในเวลาเพียง 66 ชั่วโมง VF 3 สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของเวียดนาม กระแสความสนใจที่ล้นหลามในช่วงแรกของการเปิดตัวนี้ชี้ให้เห็นว่าการออกแบบ และราคาที่จับต้องได้ของ VF 3 โดนใจผู้บริโภคชาวเวียดนามอย่างมาก และผลักดันให้รถยนต์รุ่นนี้ก้าวสู่สถานะรถยนต์ระดับชาติ

นอกเหนือจากยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์แล้ว VF 3 ยังกลายเป็นปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดียในเวียดนาม โดยเป็นรถยนต์รุ่นที่ติดอันดับเทรนด์ และเป็นที่กล่าวถึงบนสื่อออนไลน์มากที่สุดนับตั้งแต่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า

ผลสำรวจที่จัดทำโดยนิตยสารออนไลน์ฉบับหนึ่งของเวียดนามเผยให้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับฐานลูกค้าของ VF 3 โดยระบุว่าเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง VF 3 กับรถยนต์คู่แข่งจากจีน เกือบ 90% ของผู้ตอบแบบสอบถาม (3,089 จาก 3,511 คน) เลือกวินฟาสต์

ขณะที่ผลสำรวจเพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของ VF 3 ชี้ให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจของรถรุ่นนี้
ที่มีต่อกลุ่มประชากรในวงกว้าง โดยกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด (25.5%) เป็นผู้หญิงวัยทำงานซึ่งให้ความสำคัญกับราคาที่เข้าถึงได้ และความคล่องตัวของรถในการใช้งานประจำวัน และรับส่งลูก การออกแบบที่กะทัดรัด และความสะดวกในการขับขี่ในพื้นที่คับแคบในเมืองจึงเป็นปัจจัยดึงดูดสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ

ครอบครัวขนาดเล็ก (ที่มีลูก 1 – 2 คน) ก็เป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่อีกกลุ่ม ด้วยสัดส่วน 22.2% ความสะดวกในการใช้งาน และขนาดของ VF 3 นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมือง รองรับความต้องการของกลุ่มคนที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว

นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าหลักเหล่านี้แล้ว การสำรวจยังเผยให้เห็นฐานลูกค้าที่หลากหลายออกไปอีก โดยประมาณ 16%เป็นกลุ่มผู้ที่กำลังมองหารถคันที่สอง คนวัยเริ่มต้นทำงาน และพนักงานออฟฟิศ ซึ่งความเป็นรถอเนกประสงค์และราคาที่จับต้องได้ของ VF 3 ทำให้รถรุ่นนี้โดนใจกลุ่มคนหลากหลายไลฟ์สไตล์

ความเหมาะสมในการใช้งานในพื้นที่ชานเมืองก็เป็นอีกหนึ่งแง่มุมที่น่าสังเกต รถยนต์ที่ใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศอย่าง VF 3 เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในเขตชานเมืองที่ต้องเดินทางในระยะไกลในแต่ละวัน นอกจากนี้รูปแบบของที่พักอาศัยชานเมืองที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านมากกว่าเป็นอาคารสูง ยังทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้อีกด้วย

จากรายงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency – IEA) ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ภายใต้ภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ราคาที่จับต้องได้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการใช้ EV ในวงกว้าง

IEA คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567 โดยแตะ 17 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งหมายความว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ 1 ใน 5 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า

รายงานดังกล่าวเผยว่าอัตรากำไรที่ตึงตัว ราคาโลหะสำหรับผลิตแบตเตอรี่ที่ผันผวน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และการลดแรงจูงใจ ในการซื้อ EV ในบางประเทศ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า แต่ข้อมูลการขายทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง

ยอดจองซื้อล่วงหน้าที่ทำลายสถิติของ VF 3 เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่เพียงประมาณ 9,248 ดอลล่าร์สหรัฐฯ พร้อมระบบเช่าแบตเตอรี่ และประมาณ 12,390 ดอลล่าร์รวมแบตเตอรี่ 

สำหรับเงินดาวน์ ลูกค้าต้องจ่ายเพียงประมาณ 1,965 – 2,750 ดอลลาร์ ยอดคงเหลือสามารถผ่อนชำระเป็นรายเดือน
ประมาณ 78.5 ดอลล่าร์เป็นเวลา 8 ปี และเมื่อเปรียบเทียบการซื้อ VF 3 โดยจ่ายเต็มจำนวนครั้งเดียวจะมีราคาเพียงครึ่งหนึ่งของราคารถยนต์เบนซินที่ถูกที่สุดในตลาดเวียดนามในปัจจุบัน

เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์รุ่นอื่นๆ  VF 3 มีการรับประกันตัวรถ 7 ปีหรือ 160,000 กม. (แล้วแต่ระยะใด
จะถึงก่อน) และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง

 

สำหรับมิติของ VF 3 คือมินิเอสยูวีที่มีความยาว 3,190 มม. กว้าง 1,679 มม. และสูง 1,622 มม. ระยะฐานล้อ 2,075 มม. และล้ออัลลอยขนาดสูงสุด 16 นิ้ว มีระยะสูงห่างจากพื้นถึง 191 มม. ทำให้สามารถใช้งานในสภาพภูมิประเทศต่างๆ ได้ดี

การตกแต่งภายในของ VF 3 ดูทันสมัยด้วยการใช้โทนสีที่มีสไตล์ พรั่งพร้อมด้วยฟีเจอร์เพื่อประสบการณ์การขับขี่
ที่สะดวกสบาย โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้วที่บริเวณหน้าคนขับ ห้องโดยสารที่ออกแบบเพื่อรองรับผู้โดยสารได้ 4 คน พร้อมเบาะหลังแบบพับได้ที่ขยายพื้นที่เก็บสัมภาระเป็น 285 ลิตร

ระบบส่งกำลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 32 กิโลวัตต์ ซึ่งให้แรงบิดที่ 110 นิวตันเมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ช่วยให้รถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 50 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 5.3 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.64 กิโลวัตต์ชั่วโมงมีระยะการขับขี่สูงสุด 210 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จด่วน จาก 10% เป็น 70% ในเวลาเพียง 36 นาที

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่าเวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจของที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดย GDP จะเพิ่มขึ้น 6.7% (6.2% ในครึ่งปีแรก และ 6.9% ในครึ่งปีหลัง) ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจเวียดนาม อุตสาหกรรมการผลิตของประเทศได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสในการพัฒนามากมาย

นอกจากนี้ เวียดนามยังมีปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมในการรองรับการย้ายฐานการผลิตจากจีน ขณะเดียวกัน
เวียดนามเองก็ได้พัฒนาประเทศไปสู่ภาคการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม 2566 เวียดนามได้ลงนามและดำเนินการข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) จำนวน 19 ฉบับ

ข้อตกลงการค้าเสรีเหล่านี้ส่งผลให้สินค้าเวียดนามได้รับการยอมรับในระดับสากลมากขึ้น ซึ่งช่วยให้เวียดนามได้รับประโยชน์จากปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์แล้ว เวียดนามยังมีข้อได้เปรียบจากจำนวนประชากรมากกว่า 100 ล้านคน และจำนวนแรงงานที่มากถึง 56 ล้านคน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย  

บทความที่น่าสนใจ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขอเชิญทุกท่านวิ่งการกุศล พร้อมสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือการแพทย์

palm

ชมคันจริง MINI Rosewood Edition รุ่นพิเศษสีใหม่ จำกัดในไทยเพียง 30 คัน

idiot

MG4 EV รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก Morris Garage เปิดตัวกันยายนนี้ ในสหราชอาณาจักร

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy