ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกันยาวๆ สักทีกับรถกระบะที่เป็น Line Up ใหม่ของทาง MG มีสมญานาม “กระบะพันธุ์ยักษ์” หรือชื่อที่เป็นทางการ MG Extender ซึ่งก่อนหน้านี้ในงานเปิดตัวก็มีการทดลองขับแบบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นสีสัน แต่คราวนี้หลังจากเปิดตัวไปก็เป็นที่พูดถึงของผู้บริโภคกันพอสมควรว่ารถ MG Extender จะดีไหม เครื่องยนต์ ช่วงล่างจะเป็นยังไง ทำให้ทางบริษัท เอ็มจี เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับรถยนต์ MG Extender กันแบบยาวๆ ตั้งแต่ภาคใต้ จรดภาคเหนือ รวมระยะทางก็กว่า 3,500 กิโลเมตรเลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่าครั้งนี้ทาง MG เค้าจัดเต็มจริงๆ
ในกิจกรรมครั้งนี้ทางเราก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดลองขับกับเค้าด้วย ซึ่งเส้นทางที่เราได้เข้าร่วมนั้นก็เป็นเส้นทาง กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์ – ขอนแก่น ระยะทางรวมๆ แล้วก็ประมาณ 620 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ไม่ได้วิ่งผ่านถนนเส้นหลักเท่าไหร่ ก่อนที่จะไปทดลองขับกันนั้น มาพูดถึงตัวรถกันก่อนดีกว่าว่าทั้งภายนอก และภายในจะใหญ่ตามสมญานาม “กระบะพันธุ์ยักษ์” รึไหม
มาที่ภายนอกก่อนละกัน หลายๆ ท่านอาจะเคยได้สัมผัส ได้เจอตัวจริงๆ กันบ้างแล้ว แต่พอดีในการทดลองตรับคราวนี้ ทั้งขบวนจะมีแต่รุ่น 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT ซึ่งจะเป็นรุ่น TOP เท่านั้น ตัวรถจะมีขนาดยาว 5,365 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,850 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,155 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,580 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากใต้ท้องรถถึงพื้นถนน 183 มิลลิเมตร(แต่ตัวขับ 2 ยกสูงกับสูงกว่าอยู่ที่ 216 มิลลิเมตร) ก็ถือว่าใหญ่พอตัว ถ้าวัดตามขนาดแล้วนั้นจะเล็กกว่าแค่ Ranger เท่านั้นเอง ส่วนความสวยงามในการออกแบบนั้นก็อาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย อาจจะเป็นเพราะเป็นกระบะรุ่นแรกของ MG ที่เป็นสายพันธุ์อังกฤษนั้นเอง
ส่วนเส้นสายต่างๆ รอบตัวรถก็ดูลงตัว เป็นเหลี่ยมสันชัดเจน แต่ก็ยังคงการออกแบบให้อยู่ภายใต้แนวคิดของการพัฒนาที่เรียกว่า บริท ไดนามิก (BRIT DYNAMIC) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญ 4 ประการในการพัฒนารถยนต์ MG ทุกๆ รุ่น มาที่ด้านท้ายของ MG Extender ก็ดูลงตัวใช้ได้
โดยเฉพาะกันชนท้ายที่มีการใส่ใจลงรายละเอียดนิดหน่อยเหมือนมีช่องที่ด้านล่างของกันชนไว้ให้สำหรับบางท่านที่อาจจะเหยียบบนกันชนขึ้นไปไม่ถึง แต่กลับกันในส่วนของฝาท้ายกับมีน้ำหนักพอตัวเลยทีเดียวเวลาเปิดลงมา จริงๆ ทาง MG เค้าก็ทำให้เบาได้นะแต่ก็เป็นออฟชั่นเสริมที่ต้องไปต่อรองกันดูที่โชว์รูมละกันว่าจะได้ฟรีหรือเสียตังค์
มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า ขบวนเริ่มออกเดินทางจากโรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น แถวๆ ดอนเมือง เพื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัด บุรีรัมย์ เป็นจุดมุ่งหมายในวันแรกระยะทางก็ประมาณ 400 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางที่ใช้ก็ไม่ใช่เส้นทางหลักมุ่งหน้าจากวิภาวดี เข้าสู่เส้นรังสิต – นครนายก – ปราจีนบุรี แค่ช่วงแรกก็ได้พิสูจน์ความคล่องตัวของกระบะพันธ์ยักษ์กันแล้ว ว่าขับขี่บนถนนช่วงเช้าๆ ช่วงเวลาทำงานจะเป็นยังไงบ้าง ในการขับขี่ในช่วงเวลารถติดนั้นก็พอมีความคล่องตัวอยู่พอสมควร ทั้งในการเปลี่ยนเลน การเร่งแซงในช่วงสั่นๆ อาจจะมีจังหวะที่ต้องรอรอบเครื่องสักนิดหน่อย
สำหรับขุมพลังที่ MG Extender ใช้นั้นเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 161 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที มีแรงบิด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,400 รอบต่อนาที พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับรถมาเรื่อยก็เข้าเส้น นครนายก – องค์รักษ์ เลยช่วงจาราจรหนาแน่นกันแล้ว ช่วงนี้ก็ขับกันสบายๆ หน่อย
เลยถือโอกาศนี้พูดถึงภายในกันสักหน่อยละกัน ต้องบอกเลยว่าห้องโดยสารนั้นกว้างขวางมาก ไม่อึดอัดทั้งตอนหน้า และตอนหลัง แต่ในส่วนของเบาะนั่งอาจจะมีการเมื่อยกันนิดหน่อยถ้าได้เดินทางกันยาวๆ ในเบาะตอนหลังเพราะองศาการเอียงของเบาะนั่งอาจจะลาดไปสักหน่อยน่าจะชันขึ้นอีกสักหน่อยน่าจะดี สิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงระบบการใช้งานต่างๆ ในตัวรถก็หยิบจับ กดใช้งานได้สะดวกอยู่
แต่ที่น่าสนใจจะเป็นระบบ Entertainment (อันนี้ผมชอบมาก) ที่จริงๆ แล้วก็ใส่อยู่ในหลายๆ รุ่นของรถยนต์ MG รวมถึงระบบ I – Smart การสั่งงานด้วยเสียงที่อัพเดทเวอร์ชั่น สั่งงานได้ง่ายดายกว่าเดิม ในระบบ Entertainment ที่น่าสนใจนั้นก็คงเป็นเรื่องของเพลงที่ต้องบอกว่า Usb Thumb Drive ก็ถูกลดบทบาทลงไปเพราะสามารถฟังเพลงจาก True Music ได้ง่ายๆ มีเพลงให้ค้นหา เลือกฟังมากมาย
การเดินทางก็มาถึงช่วงที่แวะเข้ามาลองระบบขับเคลื่อน 4 ล้อกันแบบสั่นๆ ระยะประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ MG Extender ก็มีระบบล็อกเฟืองท้ายมาให้ด้วย อุปสรรคต่างในเส้นทางระบบขับ 4 ก็พาผ่านไปได้ด้วยดี ออกจากเส้นทางขับเคลื่อน 4 ล้อก็มาเข้าสู่โหมด On Road กันอีกครั้งกับเส้นทางขึ้นเขา-ลงเขากันบ้าง ที่สามารถใช้ความเร็วกันได้พอสมควร ก็ได้ทดสอบพละกำลังเครื่องยนต์ และสมรรถนะของช่วงล่าง พอมาถึงช่วงนี้ก็จับอาการเครื่องยนต์ได้พอสมควร ทั้งการรอรอบที่มีหน่วงจังหวะนิดหน่อย รวมถึงการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และกล่อง ECU ที่ยังทำงานไม่สัมพันธ์กันเท่าไหร่มีอาการกระตุ๊ก สะดุดนิดหน่อย เมื่อเราคิกดาวน์วิ่งไปได้สักระยะแล้วมีการถอนคันเร่งทันทีจนสุดจะมีอาการเกิดขึ้น แต่ทางทีมงาน MG ก็แจ้งว่าต้องใช้งานกันไปสักพักระบบก็จะเข้าที่เอง เหมือนกำลังเรียนรู้การขับขี่ของผู้ขับอยู่
ส่วนในระบบช่วงล่างที่ใส่มานั้นเป็นแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION โดยระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังเป็นแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) โดยโช้คอัพจาก Sachs เป็นช่วงล่างที่จัดมาได้ดีในการซับแรงกระแทกของตัวรถกับพื้นถนน ในช่วงความเร็วต่ำให้ความนิ่มนวลกำลังดีไม่กระด้างเหมือนรถกระบะทั่วไป ส่วนในความเร็วสูงก็ให้ความมั่นใจกับการเกาะถนนได้ดี แต่ก็ยังมาติดที่ระบบพวงมาลัยที่ใส่เป็นแร็คแอนด์พิเนียน ผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิค ตั้งค่าน้ำหนักของพวงมาลัยมาเบาเกินไปจนน่ากลัวเวลาขับความเร็วสูงๆ สุดท้ายปลายทางกับระยะทางทั้งหมดประมาณ 620 กิโลเมตร ใช้ความเร็วกันพอควรอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่ได้ขี้เหล่เท่าไหร่กับขนาดตัวเท่านี้ อยู่ที่ประมาณ 11 – 12 กิโลเมตร/ลิตร
โดยรวมก็ถือว่า MG Extender ก็ยังคงต้องมีการพัฒนา ปรับปรุง กันพอสมควมในรุ่นต่อๆ ไป แม้ในรุ่นปัจจุบันทื่เพิ่งออกมาจำหน่ายนั้นจะมีบางจุดที่ยังมีข้อเสียอยู่ในบางจุด แต่ก็ยังน่าใช้กว่าบางยี่ห้อ ท่านใดที่สนใจ จะชอบ ไม่ชอบก็ต้องไปลองสัมผัส ทดลองขับกันดูว่าเป็นยังไงบ้าง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาดรถกระบะสำหรับกระบะพันธ์ยักษ์ MG Extender ก็ไปสัมผัส และทดลองขับที่โชว์รูม MG ทั่วประเทศ