fbpx

ค่าใช้จ่ายที่คุณอาจไม่เคยรู้! เกี่ยวกับรถใหม่ป้ายแดงจากโชว์รูม

วันนี้เราจะมาบอกกล่าวสำหรับใครหลายๆ คนที่ยังไม่เคยซื้อรถป้ายแดงมาก่อน หรือบางคนผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว แต่อาจจะไม่ค่อยได้สังเกตสักเท่าไหร่ ว่าในวันรับรถออกจากโชว์รูมนั้น นอกจากเงินดาวน์ที่ตกลงไว้กับผู้จำหน่ายหรือตัวแทนจำหน่ายแล้ว ยังจะต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกที่คุณยังจะต้องควักกระเป๋าเพื่อเตรียมไปชำระด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นลองไปดูกันเลย

  • ค่าเบี้ยประกันภัย

รถยนต์บางยี่ห้อไม่ได้มีการแถมประกันภัยชั้น 1 ให้กับทางลูกค้า หรืออาจมีเงื่อนไขดอกเบี้ยพิเศษที่บังคับให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าประกันภัยเอง ซึ่งส่วนใหญ่รถป้ายแดงทุกคันจะต้องทำประกันภัยชั้น 1 ตามข้อบังคับของบริษัทไฟแนนซ์ (เว้นแต่ซื้อเงินสดก็ขึ้นอยู่กับลูกค้า) ดังนั้น คุณอาจจะต้องควักเงินอีกประมาณ 2-3 หมื่นบาท สำหรับรถขนาด 1.5 ลิตร (รถราคายิ่งแพง ค่าประกันก็จะสูงตามไปด้วย) เพื่อจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันในวันรับรถ

  • ค่าจดทะเบียน

ค่าจดทะเบียนรถยนต์แต่ละรุ่นไม่เท่ากัน แต่ปกติศูนย์บริการจะบวกค่าบริการเพิ่มไปนิดหน่อยให้กลายเป็นเลขกลมๆ เช่น 3,500 บาท หรือ 5,000 บาท เป็นต้น หากศูนย์บริการที่คุณออกรถไม่จ่ายค่าจดทะเบียนให้ คุณก็จะต้องเตรียมเงินจำนวนนี้ไปจ่ายด้วยอีกเช่นกัน แต่หากใครต้องการประหยัดเงินก็สามารถนำรถไปจดทะเบียนเองได้ แต่ขั้นตอนอาจยุ่งยากสักหน่อย หลายๆ คนเลยเลือกที่จะยอมจ่ายในส่วนนี้ให้กับทางศูนย์บริการเพื่อลดภาระ

  • ค่ามัดจำป้ายแดง

ปกติแล้วศูนย์บริการจะคิดค่ามัดจำป้ายแดงประมาณ 2,000 – 3,000 บาท และจะจ่ายคืนให้กับลูกค้าเมื่อนำรถกลับมาเปลี่ยนเป็นป้ายดำ ทางที่ดีควรตรวจสอบก่อนว่าป้ายแดงที่ได้รับเป็นป้ายแดงที่ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหากับตำรวจเมื่อถูกตรวจสอบในภายหลัง

  • ค่าน้ำมัน

รถใหม่ส่วนใหญ่จะเติมน้ำมันจากโรงงานมาให้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่่งน้อยมากที่ศูนย์บริการจะเติมเพิ่มให้ลูกค้า ดังนั้น เมื่อขับรถออกจากศูนย์แล้ว คุณจำเป็นต้องนำรถไปเติมน้ำมันในวันที่ออกรถด้วย

  • ค่าอุปกรณ์อื่นๆ

หากใครสั่งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่ไม่รวมอยู่ในของแถม ก็จำเป็นต้องนำมาจ่ายในวันรับรถด้วยเช่นกัน ในบางกรณีหากเป็นการติดตั้งเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการ คุณจำเป็นต้องจ่ายค่าอุปกรณ์นั้นเต็มจำนวนในวันรับรถ ไม่สามารถนำมารวมกับค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนได้

สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้อาจจะขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกับผู้จำหน่ายหรือตัวแทนจำหน่ายด้วย แต่หากสามารถต่อรองสิ่งใดได้เป็นพิเศษก็จะทำให้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


 

บทความที่น่าสนใจ

ทำไม Ferrari ถึงต้องเป็นสีแดง และทำไมต้องมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปม้า ??

Nopkung

เผย 5 เหตุผล ทำไมรถกระบะมาแรงกว่ารถเก๋ง

idiot

การวัดน้ำมันเครื่อง เรื่องง่ายๆ…แต่มักละเลย หรือเข้าใจผิด!

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy