All-New Mazda BT-50 ประกาศราคาจำหน่ายในไทยทั้งหมด 14 รุ่นย่อย เริ่มต้น 5.5 แสนบาท

หลังจากปล่อยให้เฝ้ารอมานาน ในที่สุด มาสด้า ประเทศไทย ก็ได้เปิดตัว All-New Mazda BT-50 เจเนอเรชั่นใหม่ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยวางราคาจำหน่ายเริ่ม ต้นเพียง 5.5 แสนบาท

All-New Mazda BT-50 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 14 รุ่น ประกอบด้วย

1. Standard Cab (STD) 1.9 E ราคา 553,000 บาท
2. Freestyle Cab (FSC) 1.9 C ราคา 679,000 บาท
3. Freestyle Cab (FSC) 1.9 C Hi-Racer ราคา 714,000 บาท
4. Freestyle Cab (FSC) 1.9 C Hi-Racer 6 AT ราคา 768,000 บาท
5. Freestyle Cab (FSC) 1.9 S Hi-Racer ราคา 787,000 บาท
6. Freestyle Cab (FSC) 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 832,000 บาท
7. Double Cab (DBL) 1.9 C ราคา 771,000 บาท
8. Double Cab (DBL) 1.9 S ราคา 847,000 บาท
9. Double Cab (DBL) 1.9 S Hi-Racer ราคา 891,000 บาท
10. Double Cab (DBL) 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 936,000 บาท
11. Double Cab (DBL) 1.9 SP Hi-Racer ราคา 1,012,000 บาท
12. Double Cab (DBL) 1.9 SP Hi-Racer 6AT ราคา 1,070,000 บาท
13. Double Cab (DBL) 4×4 3.0 SP ราคา 1,118,000 บาท
14. Double Cab (DBL) 4×4 3.0 SP 6 AT ราคา 1,153,000 บาท

BT-50 ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ซึ่งถูกวางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ

เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร โดดเด่นด้วยอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดในคลาสกับตัวเลข 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร ถูกวางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาด รองรับน้ำมันได้ถึง B20

ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ผสานการทำงานกับระบบขับเคลื่อนที่มี 2 ทางเลือก ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง ซึ่งเป็นรุ่น Hi-Racer และอีกหนึ่งทางเลือกกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับการขับขี่ใบรูปแบบออฟโรดด้วยระบบ Electronic Diff-lock ที่เฟืองท้าย อีกทั้งรุ่น Hi-Racer และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถลุยน้ำได้สูงถึง 800 มิลลิเมตร

เพื่อให้ BT-50 ใหม่ ตอบสนองการใช้งานในทุกรูปแบบ จึงมีให้เลือก 3 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ รุ่น Standard Cab (STD) หรือกระบะตอนเดียว รุ่น Freestyle Cab (FSC) หรือกระบะตอนครึ่ง และรุ่น Double Cab (DBL) หรือรุ่น 4 ประตู ซึ่งได้ติดตั้งระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

อีกทั้งในรุ่น Hi-Racer และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ESS ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC และติดตั้งถุงลมนิรภัยสูงสุดถึง 6 ตำแหน่ง เพิ่มความมั่นใจในการเข้าจอดด้วยระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง พร้อมกล้องมองหลัง

สำหรับรุ่น DBL Hi-Racer และรุ่น DBL ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้ากับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น

BT-50 เจเนอเรชั่นใหม่ เปิดตัวในตลาดเมืองไทยด้วยแนวคิด “พร้อม…กับทุกด้านของชีวิต” โดดเด่นด้วยการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ มุ่งเน้นให้เกิดความเรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More”

Mazda ได้ออกแบบให้รถโดดเด่นในทุกสถานการณ์การขับขี่ ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการจนถึงการขับแบบออฟโร้ด กระโปรงหน้ารถที่สูงทำให้ด้านหน้าดูบึกบึน

นอกจากนั้นเส้นสายที่ลากยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าแบบ LED ไปตามแนวสะท้อนของด้านข้างรถต่อเนื่องไปจนถึงไฟท้าย ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันซุ้มล้อที่ดูโดดเด่นยังให้ภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง ขณะที่ล้อออลูมิเนียมมีให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด 16 นิ้ว ขนาด 17 นิ้ว และขนาด 18 นิ้ว ซึ่งล้อขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบโดยเน้นความประณีต ผสานกับวัสดุคุณภาพสูงและองค์ประกอบอื่นๆ อย่างลงตัว คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface  มีหน้าจอแบบสี MID ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT

พวงมาลัยปรับได้มากถึง 4 ทิศทาง มาพร้อมกับเบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางและระบบดันหลัง มีระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ที่สามารถแยกปรับได้อย่างอิสระ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงลำโพง 8 ตำแหน่ง ที่พักแขนพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง ช่องเสียบ USB และมีช่องเก็บของภายในห้องโดยสารสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ ระบบ Infotainment ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ซึ่งสามารถใช้งาน Miracast แบบไร้สายผ่าน Wifi และรองรับการเชื่อมต่อแบบ MirrorLink อีกทั้งยังมีระบบนำทางที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

All-New Mazda BT-50 เปิดรับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษช่วงเปิดตัวแนะนำกับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร