ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าวถึงกรณี Toyota Yaris ATIV ที่มีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนแผงประตูคู่หน้า ซึ่งเป็นคนละสเปกกับที่ใช้ในการทดสอบการชน ส่งผลให้ทาง Toyota ประเทศไทยจำเป็นต้องยุติการขายรถรุ่นนี้เป็นการชั่วคราว
การแถลงข่าวที่เกิดขึ้น นำโดยบอสใหญ่ของ Toyota อย่าง Akio Toyoda พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และคณะกรรมผู้จัดการใหญ่ Toyota Motor ประเทศไทย โดยเราได้สรุปใจความสำคัญในงานแถลงข่าวมาให้ทุกท่านดังนี้
แนวทางการแก้ไขปัญหาของ Toyota Yaris ATIV
เริ่มกันที่แนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของ Yaris ATIV ได้มีการระบุว่า โตโยต้าได้นำรถที่ผลิตขายในประเทศไทย (สเปกเดียวกับรถที่ขายไปแล้ว) นำมาทดสอบการชนด้านข้าง ตามมาตรฐาน UN-R95 ซึ่งผลที่ออกมานั้นพบว่า ตัวรถมีความปลอดภัยตามมาตรฐานและไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือแก้ไขแต่อย่างใด
Yaris ATIV จะพร้อมส่งมอบอีกครั้งเมื่อไหร่ ?
สำหรับกำหนดการส่งมอบรถ Yaris ATIV ของลูกค้าที่ทำการจองไว้แล้ว ในขณะนี้ “ยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัด” ว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาส่งมอบรถยนต์ได้เมื่อไหร่ และยังได้กล่าวอีกว่าตัวรถต้องผ่านการรับรองจากทางภาครัฐ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง และหากตัวรถผ่านการรับรองจากทางการว่าตัวรถมีความปลอดภัยแล้ว ก็จะพร้อมส่งมอบรถยนต์ให้กำลังลูกค้าต่อไป
แล้วลูกค้าที่รับรถ Yaris ATIV ไปแล้ว จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
สำหรับลูกค้าชาวไทยที่ได้รับรถ Yaris ATIV ไปแล้วมากกว่า 30,000 คัน Akio Toyoda ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า รถยนต์ที่ส่งมอบไปแล้วทุกคัน ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยตามที่ทางโตโยต้ากำหนด และพวกเขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจแก่ลูกค้า
Toyota จะยังคงร่วมมือกับ Daihatsu ในการพัฒนารถยนต์ต่อไป
ในประเด็นนี้ ได้มีการกล่าวว่า ทางโจโยต้าและไดฮัทสุ จะยังคงร่วมมือกันในการสร้างรถยนต์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานต่อไป (Yaris ATIV ใช้พื้นฐานโครงสร้าง DNGA – Daihatsu New Global Architecture) แต่ก็เข้าใจว่ามีหลายคนที่เป็นกังวลถึงกรณีดังกล่าว โดยเราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะรอบคอบและตั้งใจที่จะผลิตรถยนต์ที่ดีที่สุดต่อไป
ทำไม Akio Toyoda ถึงเดินทางมาแถลงข่าวที่ประเทศไทยด้วยตัวเอง
สำหรับในประเด็นนี้ Akio ได้กล่าวสั้นๆว่า ผมรักประเทศไทย และประเทศไทยยังเป็นตลาดและฐานการผลิตที่สำคัญของโตโยต้า อีกทั้งเขายังเคยดูแลและรับผิดชอบการดำเนินงานของโตโยต้าในภูมิภาคนี้ (เอเซีย) และได้เคยสัมผัสถึงบุคลากร พนักงาน รวมถึงดีลเลอร์ของโตโยต้าในประเทศไทย และที่สำคัญที่สุดคือ รอยยิ้มของลูกค้าที่เข้ามาซื้อรถยนต์โตโยต้า จึงทำให้เขามุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้ถูกต้องมากที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมาให้ได้เร็วที่สุด