เบื้องหลังโลโก้ : สิ่งที่ทำให้ ‘แร็พเตอร์’ เป็นรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย, 23 เมษายน 2568 – หากพูดถึงรถกระบะสมรรถนะสูงที่กล้าลุยทุกเส้นทาง  ไม่มีชื่อไหนโดดเด่นไปกว่า ‘แร็พเตอร์’ จากฟอร์ด ผู้บุกเบิกนวัตกรรมในการพัฒนารถกระบะสมรรถนะสูง นับตั้งแต่การเปิดตัว F-150 SVT Lightning ในปีพ.ศ. 2536และเบื้องหลังความแกร่งนี้ เกิดจากดีเอ็นเอที่ถูกบ่มเพาะในสนามแข่งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุค 80 (พ.ศ. 2523 – 2532)

รถฟอร์ดเริ่มโด่งดังในสนามแข่งออฟโรดเมื่อ แมนนี่ เอสเควร์รา ขึ้นขับฟอร์ด เรนเจอร์ ลงสนามและคว้าแชมป์ SCORE Championships ทั้งในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกในช่วงปี 80 ต่อมาในทศวรรษ 90 ทีม Rough Riders ก็เข้ามาสานต่อความสำเร็จและสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศมากกว่า 20 รายการภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี จนกระทั่งในช่วงยุค 2000 (พ.ศ. 2543 – 2552) ฟอร์ดได้นำความเชี่ยวชาญจากสนามแข่งมาพัฒนาเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงสำหรับใช้งานจริงสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการรถกระบะออฟโรดที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน 

รถฟอร์ดตระกูลแร็พเตอร์รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นเมื่อฟอร์ดเปิดตัว F-150 แร็พเตอร์ รุ่นแรกในปีพ.ศ. 2553 พร้อมกระแสการตอบรับถล่มทลายจนมีคิวจองยาวนานถึงหนึ่งปี จากนั้นฟอร์ดได้ขยายไลน์อัพตระกูลแร็พเตอร์เพิ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในปีพ.ศ. 2562 ตามด้วยฟอร์ด บรองโก แร็พเตอร์รุ่นแรกในปีพ.ศ. 2564 และล่าสุดกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันที่สองในปีพ.ศ. 2566

รถฟอร์ดทุกรุ่นในตระกูลแร็พเตอร์มีเอกลักษณ์ร่วมกันคือการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันออฟโรด ที่ทำให้ลูกค้าได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ฐานล้อที่กว้างกว่ารุ่นมาตรฐาน ระยะความสูงจากพื้นที่มากขึ้น โครงสร้างเสริมความแข็งแรงและระบบกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ พร้อมโช้คอัพที่ผ่านการพิสูจน์ในสนามแข่งแล้ว ฟอร์ดส่งรถแร็พเตอร์ลงแข่งขัน Baja 1000 หนึ่งในสนามออฟโรดที่ท้าทายที่สุดในโลกเพื่อพิสูจน์ความดุดันบนเส้นทางสมบุกสมบัน แม้จะเป็นรายการแข่งขันที่มีรถรุ่นปรับแต่งพิเศษเข้าร่วม แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์รุ่นที่ผลิตจากโรงงานและจำหน่ายไปทั่วโลกก็ได้ร่วมการแข่งขัน และคว้าชัยชนะมาแล้ว  นี่คือเครื่องหมายการันตีความเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เปรียบเสมือนตราเกียรติยศที่รถกระบะแต่ละคันต้องพิสูจน์ให้ได้ เพื่อให้ได้การยอมรับว่าเป็นแร็พเตอร์ตัวจริง

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือรถรุ่นยอดนิยมขวัญใจลูกค้าคนไทยพร้อมสโลแกนประจำตัวแกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์ ด้วยคุณสมบัติสำคัญเหล่านี้ที่ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โดดเด่นและแตกต่างจากรถรุ่นอื่นๆ  

สมบุกสมบันทุกเส้นทางด้วยช่วงล่างที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้า

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ พัฒนามาเพื่อครองตำแหน่งผู้นำการขับขี่ออฟโรด โดยใช้ระบบช่วงล่างอัจฉริยะ ประกอบด้วยโช้คอัพ FOX แบบ Live-Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับและประมวลผลการขับขี่ 500 ครั้งต่อวินาที ทั้งพื้นผิวถนน การบังคับเลี้ยว การเร่ง การเบรก และการเคลื่อนไหวของตัวรถ เพื่อปรับตัวรองรับสภาพเส้นทางในแต่ละรูปแบบได้แบบเรียลไทม์ ใช้น้ำมันโช้คผสมเทฟลอนพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดแรงเสียดทาน

 

โครงสร้างแกร่งพิเศษ

รถตระกูลแร็พเตอร์สร้างมาเพื่อทนทานต่อความสมบุกสมบันของเส้นทางออฟโรดสุดโหด โดยมีโครงสร้างเพลารถเป็นเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง ออกแบบมาเพื่อทนต่อการใช้งานเมื่อขับขี่ออฟโรดความเร็วสูงโดยได้รับการเสริมความแกร่งในจุดสำคัญ เช่น จุดจับยึดต่างๆ ของช่วงล่างให้พร้อมรับทุกการผจญภัยในเส้นทางออฟโรดความเร็วสูงไม่ว่าจะตะลุยเนินทราย ปีนหิน หรือวิ่งบนทางลูกรัง

 

ฐานที่กว้างขึ้น ดุดันยิ่งขึ้น

การออกแบบรถตระกูลแร็พเตอร์ไม่ได้ทำเพื่อความเท่เท่านั้น ฐานล้อที่กว้างขึ้นเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความดุดันเพื่อการขับขี่ในพื้นที่ออฟโรด โดยจะช่วยให้รถยึดเกาะพื้นได้มั่นคงขึ้น ขับขี่ได้มั่นใจ โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์มีฐานล้อกว้างกว่าเรนเจอร์รุ่นมาตรฐาน 90 มม. เพิ่มความดุดันและความสามารถในการทรงตัว นอกจากนี้ยังใช้ยางออลเทอร์เรนของ BF Goodrich ขนาด 33 นิ้ว ที่พัฒนามาเพื่อฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยเฉพาะอีกด้วย

 

รับมือทุกสภาพพื้นผิวโดยโหมดการขับขี่ที่เลือกเองได้

ไม่ว่าจะบนทางเรียบ ไปจนถึงพื้นหิน รถตระกูลแร็พเตอร์มีโหมดการขับขี่อัจฉริยะสำหรับทุกสภาพเส้นทาง โดยทำหน้าที่เสมือนวิศวกรคอยปรับระบบต่างๆ ให้ได้ทันใจ ตั้งแต่การตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ความไวต่อระบบเบรก การยึดเกาะ การทรงตัว ไปจนถึงเสียงของท่อไอเสีย โดยแผงหน้าปัดรถยนต์ดิจิทัลก็จะเปลี่ยนไปตามโหมดที่เลือกด้วย สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีให้เลือก 7 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดหิน โหมดโคลน โหมดทราย และโหมดบาฮา พร้อมระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด Trail Control™ ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับเส้นทางออฟโรด ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิจดจ่อกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยได้

 

อวดความดุดันด้วยเสียงการขับขี่ที่สามารถเลือกได้

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นแร็พเตอร์ ย่อมไม่ได้มีเพียงสมรรถนะ แต่ยังมอบประสบการณ์ความดุดันที่เหนือชั้น โดยมีระบบท่อไอเสียปรับแต่งได้เพื่อให้เจ้าของรถสนุกกับการขับขี่ในแบบของตนเอง มาพร้อมระบบ Active Valve เพื่อมอบเสียงที่ไพเราะและดุดัน สามารถเลือกปรับได้ 4 โหมด ตั้งแต่โหมดเงียบสำหรับการขับขี่ที่ผ่อนคลาย โหมดปกติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โหมดสปอร์ตเมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้น ไปจนถึงโหมด Baja ที่ปลดปล่อยเสียงคำรามตามนิยามแกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์

 

ล่าสุดฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้พิสูจน์สมรรถนะระดับสูงในสนามแข่งขันจริง โดยทีมฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ที่ได้รับการสนับสนุนจากฟอร์ด ประเทศไทย สามารถคว้าแชมป์ประจำปีในการแข่งขันไทยแลนด์ แรลลี่ เรด แชมเปี้ยนชิพ 2567 (Thailand Rally Raid Championship – TRRC) ในรุ่น T2.1 หรือรุ่นโปรดักชัน สำหรับรถที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย และล่าสุดในปีนี้ ยังคว้าอันดับ 2 ในรุ่น T2 และอันดับ 4 Overall จากการแข่งขันสนามแรก คอออฟโรดและคนรักฟอร์ดที่สนใจสามารถติดตามชมการแข่งขันสนามต่อไปได้ในวันที่ 31 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นี้ ได้ทางเฟซบุ๊ก ฟอร์ด

บทความที่น่าสนใจ

ผู้บริหาร Lamborghini เผยว่ามีโอกาสสูงที่ Urus จะเปิดตัวรุ่นประสิทธิภาพอย่าง Performante

idiot

ชมภาพเรนเดอร์ 2022 Honda Civic Si ในลุคสุดสปอร์ต ก่อนจะเปิดตัวจริงปลายปีนี้

idiot

ชายคนหนึ่งขับ Volvo 740 GLE ไปกว่า 1.6 ล้านกิโลเมตร ก่อนได้รับเซอร์ไพรซ์สุดพิเศษจาก Volvo !!

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy