2024 McLaren 750S ใหม่ ถูกเปิดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้ามาแทนที่ McLaren 720S รุ่นท็อปที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ในฐานะรถโปรดักชั่นที่เบาและทรงพลังที่สุดเท่าที่ McLaren เคยสร้างมา มีให้เลือกทั้งรุ่น Coupe และเปิดประทุน Spider เคาะเริ่ม $324,000
750S ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V8 รหัส M840T ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 750 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังผ่านเกียร์คลัทช์คู่ SSG 7 สปีดที่ปรับปรุงใหม่ให้มีอัตราทดที่สั้นลง โดยทั้งรุ่น Coupe และ Spider สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม.
ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 332 กม.ต่อชม.
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ McLaren คือน้ำหนักที่ลดลง ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ อ้างว่า 750S เป็นผู้นำในเซ็กเมนต์นี้ด้วยอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ 579 แรงม้าต่อตัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจเมื่อพิจารณาว่า Ferrari F8 Tributo สามารถรวบรวมแรงม้าได้มากกว่า 500 แรงม้าต่อตันเท่านั้น
นั่นเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก 750S มีตัวเลือกน้ำหนักเบามากมาย ตัวอย่างเช่น เบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์มาตรฐานจะเบากว่า 720S ถึง 38.6 ปอนด์ รวมถึงการติดตั้งล้อที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโปรดักชั่นซีรีส์ กับล้ออัลลอยหล่อขึ้นรูป 10 ซี่ที่ช่วยประหยัดน้ำหนักได้อีก 30.4 ปอนด์
750S ใหม่ มีแทร็กล้อคู่หน้าที่กว้างขึ้น 6 มม. และมีการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Proactive Chassis Control III เจเนอเรชั่นใหม่ ทำให้มีสปริงด้านหน้าที่นุ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ และสปริงด้านหลังที่แข็งขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ McLaren ยังได้ปรับปรุงระบบการยกด้านหน้าของรถให้เร็วขึ้นกว่า 720S จาก 10 วินาที เหลือ 4 วินาที
ดีไซน์ภายนอกเฉียบคมขึ้นด้วยสไตล์การออกแบบที่สดใหม่ ตั้งแต่กันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศแบบใหม่ สปลิตเตอร์ด้านหน้าใหม่ให้ความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยทำงานร่วมกับปีกหลังแบบแอกทีฟที่ใหญ่ขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ส่วนท้ายของรถยังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก McLaren P1 โดยการออกแบบให้มีท่อไอเสียออกกลาง ปีกหลังสูงขึ้น 2 นิ้ว พร้อมด้วยช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อหลังใหญ่กว่าด้านหน้า และกันชนหลังใหม่พร้อมแบบตาข่ายใหม่
ภายในห้องโดยสารมีการใช้ Alcantara เป็นมาตรฐาน แต่มีออปชั่นให้เลือกคือ TechLux และ Performance ซึ่งแบบแรกจะใช้หนัง Nappa ตกแต่งทั่วทั้งห้องโดยสาร ส่วน Performance ผสมผสานระหว่างหนังและ Alcantara พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และไฟ ambient lighting
นอกจากนี้ห้องโดยสารได้รับการแสดงผลใหม่ โดยแผงหน้าปัดจะย้ายเข้าไปอยู่ติดกับคอพวงมาลัย รวมถึงระบบ McLaren Control Launcher ใหม่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆ ที่พวกเขาชื่นชอบได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
McLaren ไม่ได้บอกว่า 750S ใหม่ จะวางจำหน่ายเมื่อใด แต่เปิดราคามาแล้วทั้ง 750S Coupe เริ่มต้นที่ 324,000 เหรียญสหรัฐ และ 750S Spider มีราคาเริ่มต้น 345,000 เหรียญสหรัฐ