Corvette ถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ตระดับไอคอนจากสหรัฐอเมริกา ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 70 ปีนับตั้งแต่การเผยโฉมครั้งแรกในปี 1953 โดยในปัจจุบันรถรุ่นนี้เดินทางมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 8 (C8) ซึ่งล่าสุด Chevrolet ได้เผยโฉม Corvette E-Ray ซึ่งจะมาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดที่มีอัตราเร่งเร้าใจที่สุดในสายการผลิต
เริ่มกันที่ขุมพลังของ Corvette E-Ray ซึ่งรถคันนี้ยังคงเลือกใช้ขุมพลัง V8 รหัส LT2 ขนาดความจุ 6.2 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 495 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 637 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ dual-clutch 8 จังหวะ เสริมด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณล้อคู่หน้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร และเมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกันจะทำให้เจ้าอสูรกาย E-Ray คันนี้มีกำลังแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 655 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตรได้ภายใน 2.5 วินาที ส่งผลให้รถคันนี้เป็น Corvette ที่มีอัตราเร่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
รูปลักษณ์ภายนอก E-Ray ได้มีการหยิบยืมสไตล์การออกแบบบางอย่างของรถรุ่นพิเศษอย่าง Corvette C8 Z06 ซึ่งจะได้ตัวถังที่มีความกว้างและยาวเพิ่มขึ้นจากรถเวอร์ชั่นปกติ รวมถึงช่องระบายอากาศด้านหลังที่มีความเพรียวบางกว่า แต่ดีไซน์ของื่อไอเสียจะเลือกใช้เป็นแบบ 4 ท่อที่แยกออกเป็น 2 ฝั่งซ้าย-ขวา ซึ่งเป็นดีไซน์เดียวกับที่ใช้ใน C8 รุ่นปกติ แต่ในภาพรวมแล้วทาง Chevrolet ยังคงต้องการให้ภาพลักษณ์ของรถคันนี้ดูคล้ายคลึงกับ C8 รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
ระบบช่วงล่างและระบบเบรกก็เรียกได้ว่าจัดเต็ม เพราะทางผู้ผลิตเลือกใช้บริการระบบเบรกแบบคาร์บอนเซรามิกน้ำหนักเบาจากผู้ผลิตชื่อดังอย่าง Brembo ระบบช่วงล่างจะได้ระบบ Magnetic Ride Control เวอร์ชั่น 4.0 ซึ่งจะช่วยปรับความแข็งอ่อนตามลักษณะถนนและการขับของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ตัวล้อจะได้เป็นลาย 5 ก้านแบบบิดที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ E-Ray เท่านั้น
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารจะพบว่ามีการตกแต่งที่ดูคล้ายคลึงกับ C8 รุ่นมาตรฐานทั่วไป ซึ่งพวกเขาได้เลือกใช้โทนสีเทา-ดำ ตัดกับสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราในเวลาเดียวกัน
สำหรับราคาค่าตัวของ Corvette E-Ray มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 104,295 ดอลลาร์ (3.4 ล้านบาท) ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรถรุ่นปกติอย่าง C8 ที่มีราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 64,500 ดอลลาร์ (2.1 ล้านบาท) ก็เรียกได้ว่ามีราคาจำหน่ายที่สูงกว่าอยู่มากพอสมควร
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : carscoops.com