เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสและอยู่ในความสนใจของคนไทยเป็นอย่างมาก สำหรับข่าวการเปลี่ยนป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” ที่ทางรัฐบาลออกมาระบุว่าต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากถึง 33 ล้านบาท ในการเปลี่ยนป้ายเป็นชื่อใหม่ ซึ่งหลายๆคนตั้งข้อสงสัยว่า “จำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนี้หรือไม่” แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจำนวนเงิน 33 ล้านบาทนั้น สามารถนำไปซื้อรถยนต์หรือรถซูเปอร์คาร์รุ่นอะไรได้บ้าง ?
Toyota Yaris Ativ รุ่น Premium Luxury (ตัวท๊อป) – 47 คัน
เริ่มต้นกันที่ Eco Car ขวัญใจมหาชนอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่มาพร้อมกับออปชั่นความปลอดภัยจัดเต็มที่สุดในคลาส โดยในรุ่นท๊อปสุดอย่าง Premium Luxury ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 699,000 บาท เท่ากับว่าคุณสามารถซื้อรถรุ่นนี้เป็นจำนวนมากถึง 47 คัน
Honda Civic e:HEV RS (รุ่นท๊อป) – 26 คัน
มาต่อกันที่ซีดานไฮบริดรุ่นยอดฮิตอย่าง Honda Civic e:HEV RS ซึ่งมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,259,000 บาท ซึ่งเท่ากับว่าหากคุณนำงบ 33 ล้านบาทที่ใช้เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื้อมาซื้อ Honda Civic e:HEV RS จะได้รถมากถึง 26 คันด้วยกัน
Tesla Model 3 รุ่น Standard – 18 คัน
ข้ามฝั่งมาที่รถซีดานไฟฟ้ารุ่นยอดฮิตที่พึ่งเปิดตัวในประเทศไทยไปสดๆร้อนๆอย่าง Tesla Model 3 Standard ซึ่งเป็นรถรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาจำหน่ายที่ 1,759,000 บาท ซึ่งถ้าหากคุณนำงับที่ใช้เปลี่ยนป้ายมาซื้อรถไฟฟ้ารุ่นนี้ คุณจะสามารถมี Tesla Model 3 ไว้ครอบครองมากถึง 18 คัน
Ford Ranger Raptor V6 – 17 คัน
ดุดัน ไม่เกรงใจใคร !! ถึงแม้ว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว จาก 1,869,000 บาท เพิ่มขึ้นอีก 50,000 บาท เป็นราคา 1,919,000 บาท แต่รถรุ่นนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถนำเงิน 33 ล้านบาทมาซื้อพี่ดุดันได้มากถึง 17 คัน
BMW 320d M Sport LCI (G20) – 12 คัน
ถึงคิวของรถยุโรปรุ่นยอดฮิตอย่าง BMW 320d M Sport ซึ่งถือเป็นรุ่นท๊อปสุดของ Series 3 ที่ใช้ขุมพลังดีเซล โดยตัวรถมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 2,699,000 บาท ซึ่งหากนำงบค่าเปลี่ยนป้ายมาซื้อรถคันนี้ คุณจะได้รถไปจอดที่บ้านเท่ๆมากถึง 12 คันเลยนะ
Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium – 4 คัน
มาต่อกันที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงจากค่ายดาวสามแฉกอย่าง Mercedes EQS 500 4MATIC AMG Premium ที่พึ่งประกาศราคารถเวอร์ชั่นประกอบในประเทศไทยที่ 7,900,000 บาท และถ้าหากนำเงิน 33 ล้านบาทมาซื้อรถรุ่นนี้ คุณจะได้ซีดานไฟฟ้าคันใหญ่นั่งสบายไปครอบครองถึง 4 คัน
Porsche 911 – 3 คัน
รู้หรือไม่ หากคุณนำงบประมาณ 33 ล้านบาท มาซื้อรถสปอร์ตขวัญใจมหาชนอย่าง Porsche 911 ที่มีค่าสินสอดเริ่มต้นที่ 10.9 ล้านบาทแล้วล่ะก็ คุณจะสามารถซื้อรถรุ่นนี้ไปขับเท่ๆได้ถึง 3 คันด้วยกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยนะ
Aston Martin VANTAGE V8 – 2 คัน
ข้ามฝั่งมาที่ Aston Martin VANTAGE V8 รถสปอร์ตคูเป้สุดหรูจากเกาะอังกฤษ ซึ่งมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 15,900,000 บาท เท่ากับว่าเงินจำนวน 33 ล้านบาทจะสามารถนำมาซื้อรถคันนี้ได้ถึง 2 คัน
Lamborghini Huracan STO – 1 คัน
ถึงคิวของ Supercars ที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของสักครั้งในชีวิตกับ Lamborghini Huracan STO เจ้าอสูรกาย V10 รุ่นท๊อป ที่มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 29,990,000 บาท ซึ่งหากคุณมีเงินอยู่ 33 ล้านบาท คุณจะสามารถซื้อรถรุ่นนี้ได้ถึง 1 คัน แถมยังเหลือเงินเติมน้ำมัน เซอร์วิส หรือจะหาของแต่งเพิ่มเติมได้อีก 3 ล้านบาทเลยทีเดียว
Ferrari SF90 Stradale / Lamborghini Aventador SVJ – ซื้อไม่ได้ เพราะเงินไม่พอ T-T
ปิดท้ายกันที่รถซูเปอร์คาร์รุ่นท๊อปจากทั้งสองค่ายใหญ่อย่าง Ferrari SF90 Stradale และ Lamborghini Aventador SVJ ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าหากคุณมีเงินในกระเป๋า 33 ล้านบาท คุณคงต้อง “หาเงินเพิ่ม” อีกสักหน่อย เพราะราคาค่าตัวของ Ferrari SF90 Stradale นั้นอยู่ที่ 40.9 ล้านบาท และค่าตัวของ Lamborghini Aventador SVJ เริ่มต้นที่ 37.95 ล้านบาท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับบทความในวันนี้ที่เรานำมาฝากทุกท่าน ในความเป็นจริงแล้วจำนวนเงินระดับ 33 ล้านบาทสามารถนำไปซื้อรถยนต์สมรรถนะสูงได้มากมาย ซึ่งหากเป็นที่ต่างประเทศเงินจำนวนนี้อาจซื้อ Ferrari ได้ถึง 3 คัน เนื่องจากรถที่ขายในประเทศไทยจะโดนภาษีนำเข้าที่มากพอสมควร