เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายทหารระดับสูงประจำกองทัพ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 โดยทางกองทัพได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่เป็นประเด็นว่ารถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่รถประจำตำแหน่ง แต่เรียกว่า “รถควบคุมการสั่งการ” ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกสเปคของรถควบคุมสั่งการของกองทัพ นั่นก็คือ Mercedes Benz S500 (W222)
Mercedes Benz S-Class ถือได้ว่าเป็นรถยนต์นั่งรุ่นเรือธงของค่ายดาวสามแฉก เริ่มสายการผลิตครั้งแรกในปี 1972 โดยหากนับถึงโฉม W222 ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอยู่นั้น จะนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 ในตระกูล S-Class และแน่นอนว่ามันมาพร้อมกับความสะดวกสบายและเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ซึ่งรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง นักการเมือง และบุคคลสำคัญทั่วทุกมุมโลก
สำหรับรถที่ทางกองทัพจัดหาให้กับนายทหารระดับสูงนั้นจะเป็นรุ่น Mercedes Benz S500 โฉม W222 ซึ่งวางขายในช่วงปี 2014-2017 โดยมันมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู ดูสง่าในทุกมุมมอง ด้วยเส้นสายด้านข้างตัวถังที่พลิ้วไหว เสริมด้วยกรอบกระจกแบบด้านข้างที่ทำจากโลหะสีเงิน เพิ่มความหรูหราเข้าไปอีกขั้น และรถรุ่นนี้จะมีเฉพาะรุ่นฐานล้อยาวเท่านั้น เพื่อความสบายสูงสุดของผู้โดยสาร ระบบช่วงล่างจะได้เป็นแบบถุงลม AIR-MATIC พร้อมระบบปรับความแข็ง-อ่อน และระดับความสูงให้เหมาะสมในทุกสภาพถนนแบบอัตโนมัติ
รถรุ่นนี้มาพร้อมกับขุมพลัง Plug-in Hybrid แบบ V6 3.0 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 333 แรงม้า(PS) และแรงบิด 480 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ 7-G Tronic Plus แบบ 7 จังหวะ เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 109 แรงม้า(PS) ซึ่งส่งผลให้รถคันนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยของรถคันนี้อยู่ที่ 24.3 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดมากๆสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ยักษ์แบบนี้ และต้องแบกน้ำหนักตัวมากถึง 2,140 กิโลกรัม
หมายเหตุ : เนื่องจากทางกองทัพได้ออกมาชี้แจ้งเพียงแค่ชื่อรุ่น S500 เท่านั้น ซึ่งในประเทศไทย S500 โฉม W222 ตัวก่อน Facelift จะมีให้เลือกเฉพาะขุมพลัง 3.0 V6 ไฮบริดเท่านั้น ในบทความนี้จึงยึดขุมพลังที่มีขายในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งหาก S500 รุ่นที่เป็นประเด็นอยู่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียว จะเป็นรถที่นำเข้าโดยผู้ขายรถอิสระ Gray Market หรือทางรัฐนำเข้ารถจากต่างประเทศมาด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่จำหน่ายโดย Mercedes ประเทศไทย
ภายในห้องโดยสารของ S500 ได้รับการตกแต่งให้มีความหรูหราเป็นพิเศษ บริเวณคอนโซลและแผงประตูจะรับการตกแต่งด้วยลายไม้ โลหะ และหนังคุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อให้ทุกสัมผัสดีที่สุด มาตรวัดความเร็วจะได้เป็นแบบ TFT ที่บอกรายละเอียดต่างๆได้อย่างครบถ้วน เสริมด้วยจอตรงกลางมาตรวัดแบบ MID multi information display ซึ่งจะคอยแจ้งระบบข้อมูลต่างๆของระบบไฮบริดอย่างครบถ้วน
เบาะนั่งระดับเฟิร์สคลาสของ S500 ทำจากหนัง Nappa แบบ Exclusive package คุณภาพสูงให้สัมผัสที่เนียนนุ่มและหรูหรา ซึ่งสามารถปรับตำแหน่งของเบาะนั่งได้หลากหลายจุดเพื่อให้เหมาะกับสรีระของผู้โดยสาร เสริมด้วยเทคโนโลยีระบายอากาศเบาะนั่ง โดยใช้พัดลมดูดอากาศเพื่อลดความร้อนสะสมเมื่อนั่งโดยสารเป็นเวลานานๆ และสบายขึ้นไปอีกขั้นด้วยเบาะนวดไฟฟ้า ENERGIZING Massage ซึ่งสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้เหมือนกับเก้าอี้นวดไฟฟ้าระดับ Hi End
นอกจากนี้ยังมีระบบ Ambient Lighting ที่สามารถปรับเฉดสีของห้องโดยสารให้กลมกลืนไปกับบรรยากาศรวมถึงอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ถึง 7 สี พร้อมกับระบบ Active Perfuming System และ AIR-BALANCE Package ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยคุมควมกลิ่นหอมภายในห้องโดยสารแบบอัตโนมัติ โดยกลิ่นหอมจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 กลิ่น ได้แก่ FREESIDE MOOD, NIGHTLIFE MOOD, DOWNTOWN MOOD และ SPORTSMOOD
Mercedes Benz S500e ยังมอบความสุนทรีในทุกการเดินทาง ด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก Burmester Surround Sound System พร้อมลำโพง 13 ตัว เสริมด้วยระบบ Frontbass system เพื่อเสียงที่คมชัด กระหึ่ม เก็บทุกรายละเอียดของชิ้นดนตรีได้อย่างครบถ้วน
สำหรับราคาค่าตัวของสุดยอดรถยนต์นั่งสุดหรูหรารุ่นเรือธงจากค่าวดาวสามแฉกอย่าง Mercedes Benz S500 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6,390,000 บาท (ขึ้นอยู่กับออปชั่นและรุ่นย่อย)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : car.info / group-media.mercedes-benz.com