เมอร์เซเดส-เบนซ์ แนะนำ Mercedes-Benz GLA 200 Progressive ใหม่ ยนตรกรรมคอมแพ็คเอสยูวีที่ผสานความหรูหรากับดีไซน์สปอร์ต พร้อมนำเสนอความอเนกประสงค์ที่บ่งบอกตัวตนไม่ซ้ำใครด้วยดีไซน์ภายนอกและภายในที่ตกแต่งแบบ Progressive พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 2,199,000 บาท
Benz GLA 200 Progressive คือยนตรกรรมคอมแพ็คเอสยูวีที่ผสานความหรูหรากับดีไซน์สปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะอยากชิลในเมืองหรือออกเดินทางไกล ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นและทรงพลังด้วยการตกแต่งแบบ Progressive เพิ่มความหรูหราด้วยการใช้วัสดุโครเมียมตกแต่งตลอดทั้งคัน ต่อเนื่องด้วยไฟหน้าแบบ LED High Performance ปราดเปรียวด้วยล้อดีไซน์ใหม่แบบ 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว สีเงินตัดสลับกับสีดำ
ไฟท้ายถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในแต่ละฝั่ง โดยปรับตำแหน่งของทับทิมสะท้อนแสงมาไว้ที่บริเวณกันชนท้าย ส่งผลให้ประตูด้านหลังสามารถเปิดได้กว้างขึ้นกว่าเดิมและจัดเก็บสัมภาระได้ง่ายขึ้น GLA 200 Progressive ยังพร้อมตอบโจทย์ทุกการเดินทางด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 435-1,430 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 14 ลิตร พร้อมปุ่มควบคุมการพับเบาะที่นั่งแถวที่ 2 ที่สามารถพับได้แบบ 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
ภายใต้การกำหนดสัดส่วนของตัวถังให้สั้นลงเล็กน้อยดูคอมแพ็คมากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทว่าห้องโดยสารกลับมีพื้นที่ที่กว้างขึ้น ด้วยความสูงของตัวถังที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,605 มิลลิเมตร (1,610 มิลลิเมตรเมื่อรวมราวหลังคา) หรือสูงขึ้นกว่า 10 เซนติเมตรจากรุ่นก่อน จึงทำให้ตัวรถในภาพรวมดูมีรูปทรงที่สูงขึ้น ส่งผลให้ห้องโดยสารแถวหน้ามีพื้นที่เหนือศีรษะมากขึ้น ในขณะที่ห้องโดยสารแถวหลังก็มีพื้นที่วางขาที่กว้างขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมการตกแต่งแบบ Progressive และมอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยเบาะหนังชนิด ARTICO สีดำพร้อมเดินด้วยด้ายสีเงินตลอดทั้งคัน ในส่วนของหน้าปัดที่ดูล้ำสมัยด้วยการออกแบบทรงปีกนกที่ทอดยาวตั้งแต่ประตูหน้าผ่านคอนโซลกลาง เชื่อมไปจนถึงด้านบนของแผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้ว สำหรับหน้าจอ MBUX และขนาด 7 นิ้ว สำหรับหน้าจอเรือนไมล์เพื่อแสดงมาตรวัดต่างๆ ต่อกัน 2 หน้าจอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โดยหน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Digital display และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ พร้อมระบบปฏิบัติการหน้าจอแบบ MBUX ส่วนช่องลมของเครื่องปรับอากาศนั้นได้รับการออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากใบพัดของเครื่องบินเจ็ต (turbine) เป็นต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดแบบสปอร์ตที่ถูกบรรจุไว้ในทุกส่วน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ตกแต่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
GLA 200 Progressive มาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากมาย เช่น ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) พร้อมกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing Camera) ที่จะช่วยให้การถอยจอดง่ายขึ้นอีกด้วย
เทคโนโลยีที่เป็นไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นใหม่นี้คือ บริการ Mercedes me connect ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทำงานร่วมกับระบบมัลติมีเดียอัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุดอย่างระบบ MBUX โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่หลากหลาย อาทิ
- Mercedes-Benz emergency call system ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนและถุงลมนิรภัยทำงาน เซ็นเซอร์ของระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ และส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที
- Vehicle Monitoring เจ้าของรถยนต์สามารถเช็คตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ได้ผ่านแอปพลิเคชันของ Mercedes me connect ได้
- Vehicle Set-up ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น และส่งเป็นข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันให้ทั้งผู้ขับขี่ และศูนย์ซ่อมบำรุงสามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่าง ๆ ได้
- Maintenance Management ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวัน และเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ
- Online Booking ฟังก์ชั่นสำหรับการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยแอปพลิเคชัน Mercedes Me Service
GLA 200 Progressive ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 130-137 กรัมต่อกม. และยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยมเฉลี่ยเพียง 5.7-6.0 ลิตรต่อ 100 กม.