Lamborghini Essenza SCV12 รถแข่งไฮเปอคาร์รุ่นพิเศษที่ผลิตจำกัดเพียง 40 คันมาถึงเมืองไทยแล้ว พร้อมขุมพลัง V12 ทรงพลังที่สุดเท่าที่ลัมโบร์กินีเคยผลิตมาที่ระดับ 830 แรงม้า
Essenza SCV12 ถูกพัฒนาโดยแผนกมอเตอร์สปอร์ต Lamborghini Squadra Corse และออกแบบโดย Lamborghini Centro Stile ทั้งนี้ Essenza SCV12 ได้สืบทอด DNA โดยตรงมาจากรถในตำนานอย่าง Miura Jota และ Diablo GTR ด้วยเครื่องยนต์ V12 NA ที่ทรงพลังที่สุดร่วมกับหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งโปรโตไทป์ และการออกแบบทางด้านเทคนิคใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบสูงสุด
Essenza SCV12 มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่สามารถสร้างแรงม้าได้สูงสุดที่ 830 แรงม้า ทำงานคู่กับระบบเกียร์ส่งกำลังแบบใหม่ X-trac Sequential 6 สปีด ซึ่งถูกติดตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของตัวแชสซีรถใกล้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังซึ่งช่วยให้ประหยัดพื้นที่ ระบบท่อไอเสียได้รับการออกแบบพิเศษโดย Capristo เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับตัวรถและยังช่วยให้เสียงเครื่องยนต์เป็นเอกลักษณ์
Essenza SCV12 มีแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ที่เพียง 1.66 แรงม้าต่อกิโลกรัม ด้วยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งถูกออกแบบมาในรูปแบบของโมโนคอกที่มอบความปลอดภัยสูงสุด ทำให้ Essenza SCV12 เป็นรถ GT รุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาภายใต้กฎเกณฑ์ของ FIA prototype
ระบบกันสะเทือนแบบ Push-rod ถูกติดตั้งอยู่เหนือชุดเกียร์ของรถ เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในการบังคับเลี้ยว ยิ่งไปกว่านั้น Essenza SCV12 ยังมาพร้อมยางแบบสลิกบนล้อแมกนีเซียมขอบ 19 นิ้วในด้านหน้าและขอบ 20 นิ้วในด้านหลัง โดยระบบเบรคนั้นมีการร่วมพัฒนากับ Brembo Motorsport
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของทีมแข่งรถในรุ่น GT ของ Lamborghini Squadra Corse ทำให้หลักอากาศพลศาสตร์ของ Essenza SCV12 มีแรงกด 1,200 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่ารถแข่ง GT3 อย่างมาก
ฝากระโปรงด้านหน้ามีช่องดักอากาศแบบ 2 ช่อง โดยจะแบ่งลมร้อนและเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ โดยลิ้นด้านหน้าตัวรถช่วยในเรื่องของการลำเลียงอากาศหรือลมเย็นไปยังห้องเครื่องและระบบเกียร์ นอกจากนี้ ตัวรถยังได้รับการออกแบบให้สปอยเลอร์ด้านท้ายสามารถปรับได้ 2 ระดับ
Essenza SCV12 ถูกออกแบบโดย Lamborghini Centro Stile ที่มีผลงานการออกแบบรถแข่งคันอื่นๆ โดยตัวรถนั้นมีโครงสร้างหลักเพียง 3 ชิ้น ช่วยให้ง่ายต่อการเปลี่ยนในขณะทำการแข่งขัน
ตัวรถนั้นได้รวบรวมความเป็นรถแข่งโปรโตไทป์และลักษณะเอกลักษณ์ของทาง Lamborghini โดยการนำรูปทรง 6 เหลี่ยมเข้ามาอยู่ในการดีไซน์ไฟหน้า ช่องรับลม และช่องแอร์ รวมถึงการนำสัญลักษณ์รูปตัว “Y” มาใช้ทั้งบริเวณภายนอกและภายในของรถ
รูปทรงของพวงมาลัยนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula 1 เพื่อการใช้งานที่ง่ายและให้การควบคุมที่ดีเยี่ยม ในส่วนของเบาะนั้นได้ร่วมพัฒนากับ OMP ซึ่งใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อความปลอดภัยและได้รับการรองรับจาก FIA
ร่วมสัมผัสความหรูหราโฉบเฉี่