fbpx
10 อันดับรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก อัพเดทล่าสุดปี 2021

10 อันดับรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก อัพเดทล่าสุดปี 2021

เมื่อพูดถึงรถยนต์ระดับไฮเอนด์ หลายคนคงจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจาก Bugatti, Ferrari, Koenigsegg และ Pagani เป็นอันดับต้นๆ บริษัทเหล่านี้ได้สร้างซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์มากมาย เพื่อขายให้กับลูกค้าที่ร่ำรวยที่สุดโดยเน้นเรื่องความเร็ว ความหายาก และความสวยงาม

เพื่อคนหาว่ารถยนต์รุ่นใดแพงที่สุดในโลก เราจึงตรวจสอบรถที่มูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านเหรียญขึ้นไปและพบว่ามีรถยนต์เกือบ 30 คัน อย่างไรก็ตามใน 2021 ปีนี้เราจะยกมาเพียง 10 ดันดับแรก ซึ่งจะมีรุ่นใดบ้างนั้นไปตามตามกัน

อันดับที่ 10. Bugatti Chiron Super Sport 300 + ราคา 3.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 128 ล้านบาท)
เมื่อปลาย 2019 ปีที่ผ่านมา Bugatti ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนทั่วโลกด้วยการทำความเร็วทะลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้สำเร็จด้วย Chiron เวอร์ชั่นโปรโตไทป์ที่มีการดัดแปลงมาเป็นพิเศษ และความสำเร็จดังกล่าวก็ได้ถูกสานต่อมาเป็น Chiron Super Sport 300 + รถรุ่นโปรดักชั่นที่ผลิตจำกัดเพียง 30 คัน

Chiron Super Sport 300 + มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ตกแต่งด้วยแถบสีส้ม มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ขึ้น ปลายท่อไอเสียใหม่ สปอยเลอร์หลังถูกถอดออกไป และมีช่องระบายอากาศแบบวงกลมบนซุ้มล้อหน้าทั้งสองฝั่ง ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

อันดับที่ 9. Lamborghini Veneno – ราคา 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ144 ล้านบาท)
Veneno ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกบนเวที Geneva Motor Show 2013 ในฐานะรถรุ่นพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งบริษัท มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 740 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 609 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งคูเป้และเปิดประทุน ซึ่งทั้งหมดมีอยู่เพียง 14 คันบนโลก

อันดับที่ 8. Koenigsegg CCXR Trevita ราคา 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ153 ล้านบาท)
CCXR Trevita เป็นรถยนต์รุ่นสูงสุดในตระกูล ‘CCX’ ที่ผลิตขึ้นจำกัดเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็ตกไปอยู่ในมือของนักชกชื่อดังอย่าง ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ CCXR Trevita มีความพิเศษอยู่ที่ตัวถังทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งถูกทำขึ้นในรูปแบบสีขาวประกายเพชรแทนที่จะเป็นสีดำแบบทั่วไป ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.8
ลิตร ให้กำลังสูงสุด 1,004 แรงม้า ตลอดระยะเวลาที่ทำตลาด รถยนต์ตระกูล CCX ถูกผลิตออกมาจำหน่ายเพียงแค่ 49 คันเท่านั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโมเดล Agera ในเวลาต่อมา

อันดับที่ 7. Pagani Huayra Imola – ราคา 5.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 178 ล้านบาท)
Huayra Imola ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี ถูกแนะนำตัวให้ชาวโลกได้รู้จักไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา และเพิ่งเปิดเผยรายระเอียดทางเทคนิคเมื่อต้นปีนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก Mercedes-AMG ให้กำลังสูงสุด 827 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตันเมตร สิ่งนี้ส่งได้ผลให้ Huayra Imola คือไฮเปอร์คาร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Pagani เคยสร้างมา

นอกจากนี้ตัวรถยังโดดเด่นไปด้วยปีกหลังขนาดใหญ่ ช่องดักลมบนหลังคา แชสซีส์โมโนค็อกเสริมแข็งแกร่งด้วยวัสดุพิเศษ และผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น

อันดับที่ 6. Bugatti Divo ราคา 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 191 ล้านบาท)
ในบรรดารถยนต์ราคาแพงที่เพิ่งเปิดตัว Bugatti Divo ถือเป็นรถยนต์ที่มีดีไซน์สวยสุดตั้งแต่หัวจรดท้าย อีกทั้งยังมีหลายๆ สิ่งที่พิเศษมากกว่า Chiron รถยนต์ที่ใช้เป็นพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งสามารถสร้างแรงกดอากาศ (Downforce) ได้มากกว่า Chiron ถึง 90 กิโลกรัม มีฝาครอบเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สปอยเลอร์หลังที่มีความกว้างกว่า Chiron ถึง 23% อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าถึง 35 กิโลกรัม

ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน
2.4 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม.

อันดับที่ 5. Mercedes-Maybach Exelero ราคา 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 254 ล้านบาท)
Exelero เปิดตัวคร้งแรกในปี 2004 ในรูปแบบ one-off หรือมีอยู่คันเดียวในโลก โดยรถคันนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่ Mercedes-Maybach และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear ในเยอรมันร่วมกันพัฒนาเพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร และท็อปสปีด 350 กม.ต่อชม.

อันดับที่ 4. Bugatti Centodieci – ราคา 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 297 ล้านบาท)
Centodieci เปิดตัวครั้งแรกในงาน Pebble Beach car week เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของรถระดับอัลตร้าแรร์ ที่ถูกสร้างขึ้นแสดงความเคารพต่อซุเปอร์คาร์ระดับไอคอนในยุค 90 อย่าง Bugatti EB110 SS

ไฮเปอร์คร์รุ่นพิเศษนี้ถูกผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น และมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่ารถที่ใช้เป็นพื้นฐานอย่าง Chiron ถึง 20 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีพละกำลังเพิ่มมากกว่าถึง 100 แรงม้า เป็น 1,600 แรงม้าด้วย

อันดับที่ 3. Rolls-Royce Sweptail ราคา 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 407 ล้านบาท)
สุดยอดอัครยานยนต์สั่งทำพิเศษแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่ Rolls-Royce ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4 ปีคันนี้คือเจ้าของตำแหน่งรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในปี 2017 มาพร้อมการออกแบบที่เน้นความประณีตวิจิตรบรรจงตั้งแต่ กระจังหน้าทรงประตูวิหารแพนธีออนตี ตัดกับการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม

ภายในเรียบหรูคล้ายกับนั่งอยู่ในเรือยอชต์ และทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 ความจุ6.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 459 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อันดับที่ 2. Bugatti La Voiture Noire – ราคา 18.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 598 ล้านบาท)
แชมป์เก่าของปี 2020 ตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 2 ปีนี้ แต่ด้วยราคา 18.7 ล้านเหรียญสหรัฐ จะยังคงทำให้ไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษคันนี้ติดอยู่ในอันดับท็อปๆ ของรถยนต์ราคาแพงไปอีกหลายปีแน่นอน

La Voiture Noire มีความหมายในภาษาฝรั่งเศษว่า “รถยนต์สีดำ” ตัวรถถูกสร้างขึ้นมาจากพื้นฐานของ Chiron และมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถคลาสสิคระดับตำนานอย่าง Type 57SC Atlantic พร้อมด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ทำขึ้นด้วยมือ และเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,500 แรงม้า

อันดับที่ 1. Rolls-Royce Boat Tail ราคา 28.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 890 ล้านบาท)
Rolls-Royce กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าของรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกได้อีกครั้งด้วย Boat Tail ยนตรกรรมสั่งทำพิเศษที่มาพร้อมการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรือยอร์ชระดับ J Class

ภายนอกตกแต่งไม่ซ้ำใครในแบบทูโทน มีไฟหน้าที่เป็นแบบเส้นหนาแนวนอน ส่วนท้ายรถใช้แผงไม้วีเนียร์ตกแต่งภายนอก และมาพร้อมตู้แช่เย็นสำหรับแชมเปญ ร่มกันแดดแบบบิ้วอิน โต๊ะด้านหลังตกแต่งด้วยไม้ Caleidolegno และเก้าอี้บาร์สูงที่ทำจากเส้นใยไฟเบอร์

ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบไฮเอนด์ ผสมผสานกับการใช้ไม้ตกแต่งบริเวณช่วงล่างและพื้นภายห้องโดยสารทั้งหมด ชวนให้นึกถึงโครงของลำเรือ พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสีมันวาว ไม้Caleidolegno และนาฬิกา BOVET 1822 หนึ่งเรือนบนแผงหน้าปัด เป็นต้น

บทความที่น่าสนใจ

พาชม Dodge Viper Limousine เปิดประทุน นั่งได้มากสุดถึง 12 คน

Nopkung

หมดปัญหาเถียงกันเรื่องกระจังหน้ากับ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า BMW ที่จมูกเล็กสุด ๆ

idiot

Bugatti เปิดตัวแชมเปญ EB.03 ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Bolide พร้อมขวดคาร์บอนสุดหรูหรา

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy