fbpx

Ford วางแผนจะขายเฉพาะรถ EV ในยุโรปตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป

Ford วางแผนที่จะยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปสำหรับกลุ่มรถยนต์นั่งในอีก 9 ปีข้างหน้า และจะขายเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป ซึ่งนั้นหมายความว่ารถยนต์เช่น Fiesta และ Focus จะไม่รับการนำเสนอเครื่องยนต์เบนซินอีกต่อไป

ก้าวแรกสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) คือการขับเคลื่อนกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายในกลางปี 2026 กล่าวอีกนัยหนึ่ง Ford จะขายเฉพาะไฮบริดแบบปลั๊กอินและ EV ในอีก 5 ปีนับจากนี้ก่อนที่จะหยุดผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปทั้งหมดในอีก 4 ปีต่อมา แฟนการดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วใน Mustang Mach-E

สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีการวางแผนคล้ายกัน โดยบริษัทประเมินว่าภายในปี 2030 สองในสามของยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะถูกนำเสนอด้วยรถปลั๊กอินไฮบริดและ EV โดยมีรุ่น Transit และ Tourneo จะนำเสนอด้วยระบบส่งกำลังไฮบริดหรือปลั๊กอินไฮบริดควบคู่ไปกับเครื่องยนต์แบบเดิม

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Ford จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อเตรียมผลิตรถ EV ในโรงงานประกอบรถยนต์ใน Cologne ประเทศเยอรมนี ซึ่งจะถูกขนานนามว่าเป็น“ Ford Cologne Electrification Center” และจะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เปิดเผยชื่อสำหรับตลาดยุโรปตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป

ด้วยแผนการเปลี่ยนรถยนต์นั่งทั้งหมดที่ขายในยุโรปให้เป็น EV ภายในสิ้นทศวรรษนี้ นั่นหมายความว่า Fiesta และ Focus รุ่นต่อไปที่กำลังจะมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะกลายเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะนำเสนอเครื่องยนต์สันดาป

Ford ยังคงผลิต EcoSport ควบคู่ไปกับ Puma ที่โรงงานในโรมาเนีย แต่มีเพียงรุ่นหลังเท่านั้นที่จะได้รับพลังงานไฟฟ้าจากการนำเสนอระบบส่งกำลังแบบ mild-hybrid ซึ่งทำให้ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก Puma ดูเหมือนจะมีอนาคตที่สดใสมากกว่า


 

Cr. Motor1

บทความที่น่าสนใจ

Toyota X Prologue ว่าที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ค่ายสามห่วง เปิดตัว 17 มีนาคมนี้

idiot

เผยตัวเลขระยะทางขับเคลื่อน BMW i4 และ iX จาก EPA วิ่งไกลสุด 521 กม.ต่อการชาร์จ

idiot

2020 Toyota Supra เผยบั้นท้ายสุดดุดันในภาพสปายช็อตล่าสุด

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy