ประเทศญี่ปุ่นวางแผนยกเลิกการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลในอีก 15 ปีนับจากนี้ เพื่อต้องการที่จะเปลี่ยนให้เป็นประเทศปลอดคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2050
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้ประกาศแผนงานที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้อุตสาหกรรมยานยนต์ปลอดคาร์บอนภายในกลางปี 2030 โดยสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนและไฮโดรเจนแทน
สำนักข่าว CBS ตั้งข้อสังเกตว่ากลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้นจะเพิ่มความต้องการในการใช้ไฟฟ้า 30-50 เปอร์เซ็นต์ แผนงานดังกล่าวยังเรียกร้องให้ญี่ปุ่นต้องใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นสามเท่า และเพิ่มการใช้พลังงานนิวเคลียร์อีกด้วย
เพื่อสนับสนุนให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี และให้การสนับสนุนด้านอื่นๆ โดยภายใต้แผนดังกล่าว สุงะ ประมาณการว่าจะเติบเศรษฐกิจโตปีละ 90 ล้านล้านเยน ภายในปี 2030 และโตขึ้นถึง 190 ล้านล้านเยน ภายในปี 2050
ในความเป็นจริง การกำจัดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันไม่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกคนในอุตสาหกรรมยานยนต์ ล่าสุด อะกิโอะ โตโยะดะ ประธาน Toyota Motor เพิ่งเปิดเผยถึงกระแสความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และแสดงความกังวลเกี่ยวกับนักการเมืองที่ผลักดันอย่างหนักเกินไปที่จะแบนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล
เมื่อมีนักการเมืองออกมาพูดว่า มากำจัดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินกันเถอะ โตโยดะ ถามกลับว่า “พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้หรือไม่?” นอกจากนี้บอสใหญ่ของโตโยต้ายังอ้างว่าญี่ปุ่นได้รับพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากการถ่านหินและก๊าซธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงไม่ได้เป็นปัจจัยที่ช่วยสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นดีขึ้น