Jaguar Land Rover ประกาศเปิดตัวระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่สำหรับ Range Rover Evoque และ Land Rover Discovery Sport พร้อมเตรียมนำเสนอในรถรุ่นอื่นๆ ในอนาคต
ระบบขับเคลื่อนดังกล่าวมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 197 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 107 แรงม้า พร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 15 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะผลิตกำลังรวมกันได้ 304 แรงม้า และแรงบิด 540 นิวตันเมตร
Range Rover Evoque P300e สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 6.4 วินาที ขณะที่ Rover Discovery Sport P300e ทำได้ ในเวลา 6.6 วินาที ซึ่งทั้ง 2 สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80% ได้ในเวลา 30 นาที ด้วยระบบชาร์จไฟ 50 กิโลวัตต์ และ 100 กิโลวัตต์
Evoque P300e สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ 66 กม. ในขณะที่ Discovery Sport P300e สามารถวิ่งได้ไกล 62 กม.
นอกจากนี้ Evoque และ Discovery Sport ยังมีความประหยัดน้ำมันดีเลิศ โดยการทดสอบวงจร WLTP พบว่า Range Rover กินมันน้อยมากเพียง 71.4 กม.ต่อลิตร ส่วน Land Rover กินน้ำมันอยู่ที่ 62.5 กม.ต่อลิตร
ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ทั้งสองรุ่นจะได้รับสายชาร์จไฟในบ้าน Mode 2 ซึ่งช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุได้ภายใน 6 ชั่วโมง 42 นาที ผ่านปลั๊กเสียทั่วไป
Evoque P300e และ Discovery Sport มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ เริ่มต้นโหมด Hybrid เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันพร้อมปรับให้เข้ากับสภาพการขับขี่ โหมดที่สอง EV จะใช้เพียงมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเท่านั้น โหมดสุดท้าย SAVE เครื่องยนต์เบนซินจะเป็นแหล่งพลังงานหลัก และแบตเตอรี่จะอยู่ในสถานะ State of Charge เพื่อรักษากำลังไฟฟ้าคงที่
อย่างไรก็ตาม Jaguar Land Rover ยังไม่ได้ยืนยันวันเริ่มจำหน่ายของทั้งสองรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่มีการเปิดรับจองล่วงหน้าแล้วในประเทศอังกฤษ และมีรายงานว่าจะมีกำหนดส่งมอบรถให้ลูกค้าในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2021
Cr. Carscoops