เมอร์เซเดส–เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3 รุ่น S 560 e สุดยอดรถยนต์หรูแห่งยุค และเป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศ เปิดตัวแล้วที่งาน Bangkok International Motor Show 2019
Mercedes-Benz S 560 e โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันหรูหรา สง่างาม เติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่
พร้อมเทอร์โบคู่และอินเตอร์คู
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังได้รับการติดตั้
ดีไซน์ภายนอกของ The S 560 e AMG Premium หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
พร้อมฟังก์ชัน ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถปรับความสว่างและความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 650 เมตรโดยอัตโนมัติ พร้อมเสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างจาก AMG และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว สีไทเทเนี่ยมเกรย
ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร มอบที่สุดแห่งความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายร่างกายและอารมณ์ในระหว่างการเดินทางเพียงแค่การ “กดปุ่ม” เพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบฉีดน้ำหอม ระบบฟอกอากาศ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Premium Ambient Light) เสียงดนตรี ฟังก์ชันระบายอากาศและอุ่นที่นั่ง พร้อมระบบนวดสำหรับเบาะคู่หลัง
โดยผู้โดยสารสามารถเลือกโปรแกรมผ่อนคลายได้ 4 แบบ คือ Refresh, Vitality, Warmth และ Joy โดย The S 560 e AMG Premium จะมาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังหุ้มหนัง Exclusive nappa ที่สามารถปรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังฝั่งซ้ายให้เอนนอนได้ถึง 43.5 องศา พร้อมที่รองขาแบบปรับระดับได้ ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อม Apple Carplay™ และ Android Auto
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
- ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้า และกล้อง STEREO CAMERA ที่ติดตั้งอยู่บนกระจกบังลมหน้า ในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคัน ในการลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ
- ระบบ Active Blind Spot Assist เทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร
- ระบบ Active Lane Keeping Assist ระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยการใช้สัญญาณเรดาร์ ในการตรวจจับช่องจราจรและรถยนต์ที่อยู่ในช่องจราจรอื่น หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะชนกับรถยนต์คันอื่น ระบบจะช่วยดึงรถกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้
- ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS ระบบนี้ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ด้านหลัง หากเรดาร์ตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกะพริบฉุกเฉินจะกะพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง
- ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic เทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก โดยสัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC จะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน และจะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก ส่วนระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัตินั้น หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลั
งเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบเบรกอัตโนมัติจะทำงานทันที - ระบบ Evasive Steering Assist ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า โดยสัญญาณเรดาร์และกล้อง STEREO CAMERA ของรถยนต์จะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมช่วยส่งแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบ Active Emergency Stop Assist ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน เช่น คนขับหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน
- ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบคันรถในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง จึงช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ ทั้งนี้ระบบจะส่งสัญญาณเตือนทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. โดยเป็นการประสานการทำงานของระบบ Active Steering ระบบ Speed Control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีที่ต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Drive Away Assist ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนในขณะที่เหยียบคันเร่งหรือเบรกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง
The S 560 e AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 6,999,000 บาท