Alphard และ Vellfire PHEV สามารถขับเคลื่อนในโหมดไฟฟ้าได้ 45 ไมล์ โตโยต้าได้เสนอระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดสำหรับ Alphard มาตั้งแต่ช่วงหลังจากที่เปิดตัวรถมินิแวนรุ่นแรกในช่วงต้นปี 2000 ปัจจุบัน Alphard ได้เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 4 โดยที่รถคันนี้มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งช่องชาร์จไฟ กลายเป็นมินิแวนปลั๊กอินไฮบริดคันแรกของญี่ปุ่น และมีรุ่นพี่อย่าง Vellfire ที่มีพื้นฐานเดียวกันในเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับรุ่น PHEV ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของทั้งสองรุ่นนี้
ทั้ง Alphard PHEV และ Vellfire PHEV จะมีการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ใต้พื้นรถ โดยไม่เปิดเผยความจุของแบตเตอรี่ แต่คาดว่าแบตเตอรี่มีระยะทางการขับขี่ในโหมดไฟฟ้าประมาณ 45 ไมล์ (73 กิโลเมตร) ซึ่งตัวเลขนี้ได้จากการทดสอบตามมาตรฐาน WLTC ที่อาจจะสูงกว่าความเป็นจริง หากทำการทดสอบในมาตรฐาน WLTP หรือมาตรฐาน EPA ของอเมริกา
ในการชาร์จที่กำลังไฟ 50 kW ใช้เวลาประมาณ 38 นาทีในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 80% แต่โตโยต้ายังไม่เปิดเผยว่าเวลานี้ใช้จากระดับแบตเตอรี่ที่เท่าไหร่ เช่น จาก 0% หรือจาก 20% ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่อ้างถึง สำหรับขุมพลังของทั้ง Alphard PHEV และ Vellfire PHEV มีกำลังรวม 302 แรงม้า โดยเป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (E-Four) ของทั้งสองรุ่นจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ โดยที่การติดตั้งแบตเตอรี่ทำให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลง 35 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นไฮบริดปกติ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไฟแบบสองทิศทาง ซึ่งทำให้ Alphard และ Vellfire PHEV สามารถทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองในกรณีฉุกเฉินได้ โดยที่เครื่องยนต์เบนซินยังสามารถสร้างไฟฟ้าได้ในสถานการณ์ที่ต้องการพลังงาน
เมื่อแบตเตอรี่เต็มและถังน้ำมันเต็ม สามารถให้พลังงานได้เพียงพอสำหรับการใช้งานประมาณ 5.5 วัน โดยอ้างอิงจากการใช้ไฟฟ้า 10 kWh ต่อวัน
อย่างไรก็ตาม รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่รถราคาถูก โดยในปัจจุบัน โตโยต้าเสนอราคาของ Alphard PHEV ที่ประมาณ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าราคาของรุ่นไฮบริดพื้นฐานที่มีขับเคลื่อนล้อหน้าเกือบสองเท่า ส่วน Vellfire PHEV มีราคาตั้งต้นที่ประมาณ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเวอร์ชันที่มีช่องชาร์จไฟ พวกเขาจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว, เพดานหุ้มหนังนุ่ม, และลายไม้ที่พวงมาลัย
ทั้ง Alphard PHEV และ Vellfire PHEV คาดว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตลาดมินิแวนปลั๊กอินไฮบริด โดยในตลาดโลกมีตัวเลือกไม่มากนัก เช่น Chrysler Pacifica ในสหรัฐอเมริกา หรือในจีนที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น Buick GL8 PHEV, Trumpchi E8, Denza D9 หรือ Voyah Dream ซึ่งจะน่าสนใจว่า Lexus LM ที่มีพื้นฐานมาจาก Alphard จะได้รับเทคโนโลยีการชาร์จไฟในอนาคตหรือไม่.
แหล่งที่มา : motor1