Apple กำลังเผชิญกับการเลิกจ้างครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด Covid 19 หลังจากปิดโปรแกรมรถยนต์ “Project Titan”
ตามเอกสารที่ยื่นต่อรัฐแคลิฟอร์เนีย ทาง Apple ได้เลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 614 คน นี่ถือเป็นการเลิกจ้างรอบสำคัญครั้งแรกของบริษัทตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ และเป็นไปตามการตัดสินใจปิดโครงการพัฒนารถยนต์ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Project Titan
แม้ว่าจะไม่เคยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รถยนต์ Apple เป็นที่เข้าใจกันว่าอยู่ระหว่างการพัฒนามานานนับทศวรรษ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีความคลุมเครือมานานหลายปี และภูมิทัศน์ด้านยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทจึงตัดสินใจปิดโครงการนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยเอกสารที่ยื่นต่อโปรแกรมการแจ้งเตือนการปรับและฝึกอบรมพนักงาน ( WARN ) บ่งชี้ว่าบริษัทกำลังตอกตะปูขั้นสุดท้ายลงในโลงศพของโครงการ แม้จะเป็นที่เข้าใจกันว่า Apple จะพยายามเปลี่ยนพนักงานไปทำโปรเจ็กต์อื่นให้ได้มากที่สุดก็ตาม
เอกสารที่ยื่นต่อไม่ได้ระบุบทบาทของพนักงานที่ลาออก แต่จะแบ่งตามสถานที่ตั้ง ซึ่งทางสื่ออย่าง Bloomberg ยังรายงานว่าพนักงานอย่างน้อย 371 คนถูกไล่ออกจากสำนักงาน Santa Clara ของ Apple ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นสำนักงานใหญ่ของ “Project Titan” นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสิบคนถูกเลิกจ้างจากสำนักงานย่อยที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับโครงการยานยนต์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พนักงานอย่างน้อย 87 คนกำลังทำงานในสถานที่ลับที่เกี่ยวข้องกับโครงการเพื่อให้ Apple สามารถสร้างหน้าจออุปกรณ์ของตัวเองได้ โครงการดังกล่าวถูกปิดตัวลงเมื่อปลายเดือนมีนาคม อันเป็นผลมาจากความท้าทายด้านวิศวกรรมและต้นทุน
“ Project Titan” เปิดตัวขึ้นในปี 2014 การล่มสลายของ Project Titan สร้างความประหลาดใจให้กับคนเพียงไม่กี่คน และคนวงในเปรียบเปรยกันว่าเป็น “Project Titanic” ซึ่งตลอดการพัฒนา เป้าหมายของรถยนต์ได้เปลี่ยนจากการเป็นคู่แข่งของ Tesla ไปเป็นคู่แข่งที่เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์กับ Waymo ของ Google ซึ่งการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก Fiat Multipla ในปี 1950
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของผู้นำและการขาดทิศทางที่ชัดเจน โครงการนี้เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการได้รับแรงผลักดัน หากไม่มีการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้บริหารระดับสูงของ Apple โครงการนี้ก็ล้มเหลวและนำไปสู่การล่มสลาย ตามรายงาน ขณะนี้บริษัทได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่ความพยายามด้าน AI แทนแล้ว
Cr : carscoops