แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Aston Martin DB12 Volante ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรม Super Tourer เปิดประทุนขุมพลัง V8 ทวินเทอร์โบ 680 แรงม้า โดยนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเริ่มต้นที่ 24.9 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
DB12 Volante ใหม่ เป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก DB12 Coupe โดยผสมผสานสมรรถนะของยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ เข้ากับความสุนทรีย์ของการขับรถเปิดประทุน ภายนอกเสนอการออกแบบที่กล้าแกร่งและแน่วแน่ของยนตรกรรมสไตล์คูเป้
โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมมีความแข็งแกร่งสูง ผสานกลไกหลังคาผ้าใบอัตโนมัติ ‘K-Fold’ ตั้งชื่อตามการพับเก็บสองขั้นตอน ทำให้มีความสูงเพียง 260 มิลลิเมตร โดยใช้เวลาเปิด-ปิดเพียง 14 และ 16 วินาที ตามลำดับ พร้อมฉนวนมากถึง 8 ชั้น ทำให้ DB12 Volante ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือรถเปิดประทุนทั่วไป โดยเมื่อเปิดใช้งาน หลังคาจะพับเก็บอัตโนมัติอยู่ใต้ฝาปิดหนังแท้ ผสานเส้นสายตัวถังที่เพรียวบาง นำสายตาสู่ห้องโดยสารอันหรูหรา ตัดกันกับตัวถังด้านท้ายที่ดูบึกบึนและทรงพลัง
ห้องโดยสารมาพร้อมแผงไม้หรือแผงคาร์บอนไฟเบอร์บนพนักพิง แบบเดียวกับขอบประตู ระบบอินโฟเทนเมนต์ล้ำสมัย และ HMI (Human Machine Interface) แบบใหม่ แสดงผลผ่านทัชสกรีนอเนกประสงค์ ‘Pure Black’ ขนาด 10.25 นิ้ว ควบคู่กับการติดตั้งปุ่มและสวิตช์ควบคุมระบบที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ขับสามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด พร้อมด้วยเครื่องเสียง Bowers & Wilkins 390 วัตต์ 11 ลำโพง ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ยามขับขี่
ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 2,750-6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (ZF 8HP75) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกหนึ่งความพิเศษของ DB12 Volante ใหม่ คือ ช่วงล่างหน้า-ดับเบิลวิชโบน และหลัง-มัลติลิงค์ พร้อมโช้กอัพอะแดปทีฟ ‘BILSTEIN DTX’ ที่มีความความยืดหยุ่น นุ่มหนึบ และความละเอียดในการขับมากขึ้นถึง 500% (เทียบกับ DB11 V8) นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรก ที่มีการติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-diff) กับยนตรกรรมสายพันธุ์ DB
ควบคุมรถอย่างมั่นใจด้วยคาลิเปอร์เบรกหน้า 6 พ็อต หลัง 4 พ็อต จับคู่จานเบรกโลหะเจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 400 และ 360 มิลลิเมตร ตามลำดับ พร้อมมีจานเบรก คาร์บอนเซรามิกเจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 410 และ 360 มิลลิเมตร เป็นออปชั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชะลอความเร็ว และลดน้ำหนักใต้สปริงได้ถึง 27 กิโลกรัม ปิดท้ายด้วยล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้ว จับคู่กับยาง Michelin Pilot Sport S 5 แก้มยางระบุอักษร ‘AML’ บ่งบอกว่าผลิตมาสำหรับ DB12 พิเศษกับโครงสร้างโฟมด้านใน ช่วยลดเสียงรบกวน และนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยมีขนาดหน้า-หลัง 275/35/ZR21 และ 325/30/ZR21 ตามลำดับ