หลังเปิดตัวรถต้นแบบไปเมื่อปีที่ผ่านมา ในที่สุดเวอร์ชั่นผลิตจริงของ 2023 Nissan Z ก็ได้รับการเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และมี 2 รุ่นย่อยให้เลือกได้แก่ Sport และ Performance
เวอร์ชั่นผลิตจริงของ Nissan Z ใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากรถต้นแบบ Z Proto ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า อันที่จริงแทบจะไม่ต่างเลยก็ว่าได้ เว้นแต่สปอยเลอร์ฝากระโปรงท้ายที่ถูกติดตั้งเข้ามาเพื่อเพิ่มความดุดันเล็กน้อย
โดยรวมแล้ว Nissan Z ใหม่ มีฝากระโปรงยาวที่มีเส้นสายดูแข็งแกร่ง กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยม ไฟหน้าที่ดูสะดุดตาด้วยดีไซน์ขอบโค้งพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED ที่ออกแบบมาเพื่อย้อนรำลึกถึง Fairlady 240ZG ปี 1970 ขณะที่สีภายนอกมีให้เลือกทั้งโมโนโทนจำนวน 3 สี และทูโทนอีก 6 สี
การตกแต่งภายในของ Nissan Z ใหม่ จะอิงตามสีตัวถังภายนอก มีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วเป็นมาตรฐาน และมีเกจวัดแบบแอนะล็อก 3 ช่องอยู่เหนือหน้าจออินโฟเทนเมนท์ แสดงแรงดันบูสต์ ความเร็วเทอร์โบ และแรงดันไฟ
Nissan Z ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และแรงบิด 475 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่มาพร้อมระบบ launch control หรือเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และขับเคลื่อนล้อหลัง
ไฮไลท์อื่นๆ ที่น่าสนใจยังรวมถึงโช้คอัพโมโนทูบหน้าและหลังแบบใหม่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 370Z รุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนลงได้ 20% มีระบบกันสะเทือนปีกนกคู่อะลูมิเนียมรูปทรงใหม่ ในขณะที่พวงมาลัยพาวเวอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งดีขึ้นถึง 13%
นอกจากนี้ Nissan Z ใหม่ ยังมาพร้อมคาลิปเปอร์อลูมิเนียม 4 พอตที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์ 2 พอตที่ด้านหลัง ล้อขนาด 19 นิ้วหุ้มด้วยยางหน้า 255/40 และยางหลัง 275/35 รวมทั้งติดตั้งเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปอีกด้วย
“พูดง่ายๆ ก็คือ เป้าหมายของเราคือการทำให้ Z นี้เป็น Z ที่ดีที่สุด” Hiroshi Tamura หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ Z ใหม่ กล่าวในแถลงการณ์ “ในแต่ละเจเนอเรชั่นเรายกระดับมาตรฐาน ผลักดันขีดจำกัดของ Z และเน้นการใช้สัญชาตญาณของมนุษย์เพื่อการเดินทางที่น่าตื่นเต้น มากกว่าแค่ทรงพลังและคล่องตัว”
“Nissan Z ใหม่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่ เพื่อให้รถเป็นเหมือนกับ ‘คู่เต้นรำ’ สำหรับการผจญภัยบนท้องถนนของพวกเขา” Tamura กล่าว
ราคาจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มต้นที่ 40,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.3 ล้านบาท