fbpx

Mercedes-Benz ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ด้วยยอดขายสูงสุด 15,785 คัน เตรียมเสริมทัพอีก 20 รุ่นในปีนี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งตลาดรถหรูเมืองไทย 18 ปีติดต่อกัน ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15,785 คัน เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ เน้นนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่ 20 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซกเมนต์

โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตที่สำคัญที่สุด ซึ่งในปีที่ผ่านมารถยนต์จำนวน 943,473 คันได้ถูกส่งมอบให้กับลูกค้า และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 7.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ไทย มาเลเซีย แลเวียดนาม ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย ทำลายสถิติด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์สูงถึง15,785 คัน เติบโตขึ้น 9% ส่งผลให้สามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดรถหรูไว้ได้เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน

มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทยจำกัด กล่าวว่า “ปี 2561 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจดจำของเมอร์เซเดสเบนซ์ทั่วโลก ด้วยการครองตำแหน่งแบรนด์รถหรูระดับพรีเมี่ยมที่มียอดขายมากที่สุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน จากยอดจำหน่ายรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2,310,185 คัน โดยมีรถยนต์ตระกูลเอสยูวีเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จจากยอดขาย 820,721 คัน นอกจากนี้รถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังสร้างยอดจำหน่ายสูงถึงหกหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รวมถึงจัดแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเพิ่มเติมรถยนต์ตระกูล 53 อีกทั้งรถยนต์ในกลุ่มคอมแพคคาร์ที่ได้ถูกจำหน่ายออกไปในจำนวนมากกว่า 609,000 คัน

ปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งมีการจับมือกับสามเครือโรงแรมชั้นนำขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ทำให้ในปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 200 แห่ง โดยในปีนี้บริษัทฯ เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์อีคิวตลอดทั้งปีทั้ง EQ Power รถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด EQ Power+ ที่เป็นส่วนหนึ่งในรถยนต์แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และกลุ่มรถยนต์แต่งและ EQ สำหรับรถยนต์ Battery Electric Vehicles หรือ BEV พร้อมวางแผนขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 80 แห่ง โดยจะเลือกสถานที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ามาใช้บริการ

มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทยจำกัด กล่าวว่า “ในด้านกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ ในปี 2562 บริษัทฯ ได้สานต่อกลยุทธ์ Best Customer Experience เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ภายใต้โกลบอลแพลทฟอร์ม “ชีส์ เมอร์เซเดส” (She’s Mercedes) อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งในปีที่ผ่านมากิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีกทั้งมีการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมที่ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามกว่า 812,285 คน และ 121,214 คนตามลำดับ”

นายพุทธิ ตุลยธัญ รองประธานบริหารฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2562 บริษัทฯ วางแผนที่จะยกระดับการให้บริการในทุกมิติ ครอบคลุมทั้งบริการด้านการบำรุงรักษา และการขยายพื้นที่ให้บริการเพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมเปิดตัว “คลังอะไหล่แห่งใหม่” (Parts Distribution Center) บนถนนบางนา-ตราด กม.19 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการจำนวน 32 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 17 แห่ง และต่างจังหวัด15 แห่ง และเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มอีกสี่แห่ง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ซึ่งจะส่งผลให้เมอร์เซเดสเบนซ์มีผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรวม 36 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้”

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 นี้ เมอร์เซเดสเบนซ์ (Mercedes-Benz) เมอร์เซเดสเอเอ็มจี (Mercedes-AMG) เมอร์เซเดสมายบัค (Mercedes-Maybach) และแบรนด์เทคโนโลยี อีคิว (EQ) วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 20 รุ่น พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยการวางแผนสร้างระบบนิเวศรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ครอบคลุมตั้งแต่การแนะนำรถยนต์ใหม่ การให้บริการหลังการขาย การขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และการเดินสายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


 

 

บทความที่น่าสนใจ

แยกย้าย! Sony เผยไม่มีแผนจะขายหรือผลิต Vision-S ในรูปแบบแมสโปรดักชั่น

Peng

สุดยอดนวัตกรรมจาก Google ที่สามารถตรวจจับสภาพพื้นผิวถนน ไม่พลาดทุกหลุมทุกบ่อ

idiot

CUB House จัดเต็มรถแต่ง Monkey และ C125 ประชันโฉมสนั่นเวที BKK Bike Fest

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy