fbpx
อดีตนักขับเอฟวัน "พอล ดิ เรสต้า" พาทีมอเมริกาผงาดแชมป์ เอเชียน เลอมังส์ ซีรีส์ 2018/19 เป็นครั้งแรกในไทย

อดีตนักขับเอฟวัน “พอล ดิ เรสต้า” พาทีมอเมริกาผงาดแชมป์ เอเชียน เลอมังส์ ซีรีส์ 2018/19 เป็นครั้งแรกในไทย

อดีตนักขับเอฟวันชาวสก็อตแลนด์ “พอล ดิ เรสต้า” กับมาสร้างผลงานอีกครั้ง พาทีมอเมริกาคว้าแชมป์ เอเชียน เลอมังส์ ซีรีส์ 2018/19 เป็นครั้งแรกของปีในเมืองไทย ขยับเข้าใกล้การคว้าแชมป์ประจำปี หลังจบเรซสุดเข้มข้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา…

สถานการณ์ของเรซเข้มข้นอย่างมากในช่วงออกสตาร์ท ก่อนที่ พอล ดิ เรสต้า อดีตนักขับเอฟวันจะพารถแข่งจาก ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ขยับขึ้นเป็นผู้นำเหนือเจ้าของโพลอย่าง อัลการ์ฟ โปร เรซซิ่ง ซึ่งในชั่วโมงแรกนั้นขับโดย แฮร์ริสัน นิวอี้ ได้สำเร็จ หลังผ่านชั่วโมงแรกเจ้าของตำแหน่งผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพอย่าง ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต สามารถรั้งตำแหน่งผู้นำได้อย่างเหนียวแน่นจากการขับของ พอล ดิ เรสต้า ก่อนเข้าพิตเปลี่ยนตัวกับ ฟิลลิป แฮนสัน นักขับดาวรุ่งชาวอังกฤษ ออกมาทำหน้าที่ต่อ

โดยทีมแข่งอเมริกันใช้กลยุทธ์เข้าพิต 4 ครั้ง ตามแผนสลับนักขับ 2 คน คนละ 1 ชั่วโมง และทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติทั้งนักขับ และทีมช่าง ก่อนที่ แฮนสัน จะนำรถแข่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก หลังผ่าน 4 ชั่วโมง โดยสามารถวิ่งไปได้ทั้งสิ้น 158 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 719.532 กิโลเมตร คว้าแชมป์ เอเชียน เลอ มังส์ สนามที่ 3 ของฤดูกาลนี้ไปครอง พร้อมกับเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของ ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ในประเทศไทย และเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้ด้วย พร้อมกับเก็บแต้มขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ประจำปีเข้าไปอีก

ส่วนอันดับ 2 ในสนามนี้ตกเป็นของ อัลการ์ฟ โปร เรซซิ่ง ซึ่งประสบปัญหาหลายอย่าง โดยในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้าย พิซซิโตล่า ต้องนำรถเข้าพิตอีกครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาจากการปะทะกับรถแข่งในคลาสจีที ขณะที่พยายามไล่แซงเพื่อน็อกรอบในโค้ง 5 ส่งผลให้การไล่ตามผู้นำเป็นเรื่องยาก และจบเรซในอันดับ 2 เวลาตามหลังแชมป์ถึง 2 นาที 18.044 วินาที (1 รอบสนาม) ด้านอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 35 จาก เพนิส บาร์เตซ คอมเพติชั่น ทีมแข่งฝรั่งเศสที่ขับโดย 3 นักขับเฟรนช์ อย่าง แม็ตธิว ลาเฮย์, ฌองส-บาปติสต์ ลาเฮย์ และ ฟรองซัวส์ เฮร์ยู ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม

ขณะที่แชมป์ในคลาส แอลเอ็มพีทรี ตกเป็นของ รถแข่งหมายเลข 2 จาก ยูไนเต็ด ออโตสปอร์ต ทีมแข่งอเมริกันที่ขับโดย เวย์น บอยด์ นักขับอังกฤษ จับคู่กับ แกเร็ตต์ กริสต์ นักขับแคนาเดียน และ คริส บันคอมบ์ ทีมเมทชาวอังกฤษ โดยทั้งสามคนช่วยกันสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พาทีมเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 151 รอบสนาม คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 687.654 กิโลเมตร เหนืออันดับ 2 อย่างรถแข่งหมายเลข 13 จากทีม อินเตอร์ ยูโรโปล คอมเพติชั่น จากโปแลนด์ ขับโดยนักขับโปลอย่าง จาคุบ ชมิคอฟสกี้ และทีมเมทชาวอังกฤษอย่าง มาร์ติน ไฮปป์ ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่งหมายเลข 79 จาก อีคูรี อีคอสเซ/นีลสัน เรซซิ่ง ขับโดย 2 นักขับจากสหราชอาณาจักรอย่าง แอนโธนี เวลส์ และ คอลิน โนเบิล ตามหลังแชมป์ 2 รอบสนาม

ด้านผลการแข่งขันในคลาส จีที แชมป์ตกเป็นของรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 11 คาร์ กาย ทีมแข่งญี่ปุ่นที่ขับโดย เจมส์ คาลาโด้ นักขับอังกฤษ, ทาเคชิ คิมูระ และ เคอิ คอซโซลิโน สองนักขับญี่ปุ่นที่ช่วยกันสร้างผลงานยอดเยี่ยม เข้าป้ายเป็นคันแรกโดยทำไปได้ทั้งสิ้น 146 รอบสนาม คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างสุดมันส์ เหนืออันดับ 2 อย่างรถแข่ง อาวดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส หมายเลข 88 จาก เทียนฉี เรซซิ่ง ทีม จากจีน ที่ขับโดย ฌอง คาร์ล เวอร์เนย์ นักขับฝรั่งเศส, อเล็กซ์ อู นักขับฮ่องกง และ เฉิน เหว่ย อัน ทีมเมทชาวจีน อยู่ 1 นาที 2.185 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของเจ้าของโพลอย่างรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 51 จากทีม สปิริต ออฟ เรซ ทีมแข่งสัญชาติสวิส ที่ขับโดย อเลสซานโดร ปิแอร์ กูดี้ นักขับอิตาเลียน และ ออสวัลโด เนกรี จูเนียร์ ทีมเมทชาวอเมริกัน รวมถึง ฟรานเชสโก ปิโอวาเน็ตติ นักขับโปรตุกีส ตามหลังแชมป์ 1 รอบสนาม

สำหรับการแข่งขัน เอเชียน เลอ มังส์ ซีรีส์ 2018/19 สนามสุดท้ายนี้ จะไปดวลความเร็วกันที่ สนาม เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์นี้ รอติดตามได้เลยคะ


 

บทความที่น่าสนใจ

หลุดคันจริง 2021 BMW M5 โฉมใหม่ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 17 มิถุนายนนี้

Peng

Mitsubishi Outlander PHEV GSR ใหม่ รุ่นเรือธงแต่งเข้ม ขายในออสเตรเลีย 1.7 ล้านบาท

Peng

อวดโฉม McLaren 720S Le Mans รุ่นพิเศษ ฉลองวันครบรอบ 25 ปีแห่งชัยชนะของ F1 GTR

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy