fbpx

แบรนด์จีน Seres เดินหน้าเข้าสู่ตลาดยุโรปโดยมุ่งเป้าหมายไปที่ Audi และ Tesla

บริษัทรถยนต์จากประเทศจีน Seres กำลังเตรียมขยายตลาดไปยุโรป โดยตั้งเป้าหมายที่จะแข่งขันกับแบรนด์ระดับพรีเมียมอย่าง Audi, Mercedes-Benz และ Tesla ในช่วงปลายปีนี้ Seres จะเปิดตัวรถ SUV 3 รุ่นใหม่ได้แก่ Seres 5, Seres 7 และ Seres 9 ในตลาดยุโรป โดยมีตัวเลือกการขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไฟฟ้าและเทคโนโลยี Range Extender

รุ่น Seres 5 จะเป็นรถ SUV ขนาดกลางที่มาแข่งขันกับ Tesla Model Y และ Volkswagen ID.4 ในตลาดยุโรป ในรุ่นไฟฟ้าจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) ขนาด 76 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 298 กิโลเมตร (WLTP) สำหรับรุ่นขับเคลื่อนเพียงเพลาหลัง และ 280 กิโลเมตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าถาวรผลิตกำลังสูงสุด 268 แรงม้า และแรงบิด 266 ปอนด์-ฟุต ทำให้เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.1 วินาที

นอกจากนี้ Seres 5 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ Range Extender ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบพร้อมแบตเตอรี่ NMC ขนาด 40 kWh ในรุ่นขับเคลื่อนเพียงเพลาหลังจะให้กำลังสูงสุด 263 แรงม้า และแรงบิด 261 ปอนด์-ฟุต เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.1 วินาที ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีกำลังสูงสุด 480 แรงม้า และแรงบิด 490 ปอนด์-ฟุต เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.4 วินาที

รุ่น Seres 7 จะเป็น SUV ขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับ Land Rover Discovery ในยุโรป โดยจะใช้เฉพาะระบบ Range Extender เช่นเดียวกับ Seres 5 ด้วยแบตเตอรี่ NMC ขนาด 40 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงเพลาหลัง 263 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าถาวรคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 433 แรงม้า และแรงบิด 482 ปอนด์-ฟุต เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.8 วินาที

นอกจาก Seres 5 และ Seres 7 แล้ว Seres ยังเตรียมเปิดตัว Seres 9 ซึ่งเป็น SUV ขนาดใหญ่กว่าที่จะวางจำหน่ายในตลาดยุโรปในภายหลัง โดยจะมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและ Range Extender เช่นเดียวกับรุ่นน้อง

Seres เชื่อว่าจุดเด่นของรถยนต์ของตนคือการให้บริการดิจิทัลและการอัพเดตฟังก์ชันการใช้งานผ่านระบบออนไลน์ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง “เราต้องการนิยามความหรูหราด้วยเทคโนโลยี และเน้นที่ระบบควบคุมอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูง” ผู้บริหารฝ่ายต่างประเทศของ Seres กล่าว “ระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติของเราอยู่ใกล้ระดับ 3 ตามมาตรฐาน SAE ซึ่งสามารถควบคุมรถได้เต็มรูปแบบในสภาพแวดล้อมที่กำหนดไว้” นอกจากนี้ Seres ยังเชื่อว่าความสามารถในการอัพเดตรถผ่านระบบออนไลน์ที่รวดเร็วกว่าคู่แข่งในยุโรปจะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน โดยสามารถส่งซอฟต์แวร์ใหม่ให้ลูกค้าได้ทันที เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Seres ยังไม่ได้ระบุเป้าหมายยอดขายที่แน่นอนในยุโรป แต่ยืนยันว่าจะร่วมมือกับผู้จำหน่ายรถยนต์ในท้องถิ่นเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และความเชื่อมั่นในตัวรถให้กับลูกค้า

 

 

Cr.autocar

บทความที่น่าสนใจ

Lotus Evija Roadster กับมาดเท่ๆ ที่ถูกโมตัวถังให้โฉบเฉี่ยวขึ้น

idiot

สนุกแน่เมื่อ Ford และ Volkswagen จะจับมือกันสร้างรถปิกอัพ Midsize คันใหม่ร่วมกัน

idiot

ลุ้น! รถยนต์โฉมใหม่ ปี 2020 ที่คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy