เมื่อเร็วๆ นี้ JAC ได้ผลิตรถกระบะครบ 300,000 คัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของบริษัท โดยใช้เวลาเพียง 2 ปีในการผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นจาก 200,000 คันเป็น 300,000 คัน นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของรถกระบะจีนในตลาดโลก
ซีอีโอของ JAC กล่าวว่า “ความสำเร็จในการผลิตรถกระบะ 300,000 คันนี้ไม่เพียงเป็นผลจากการดำเนินงานอย่างอิสระ การปรับเปลี่ยนและการพัฒนาของ JAC เท่านั้น แต่ยังเป็นผลจากความพยายามและความร่วมมือร่วมกันอีกด้วย
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญในการขยายตลาดรถกระบะจีนสู่ระดับโลก” โดยในปัจจุบัน JAC ได้ส่งออกรถกระบะไปยัง 132 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมตลาดในละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งทำให้ JAC เป็นผู้นำในตลาดรถกระบะในประเทศเม็กซิโก เปรู และคาซัคสถาน
นอกจากนี้ JAC ยังได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่น T9 ในงานมอเตอร์โชว์ที่ปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีระยะทางวิ่งได้สูงสุด 500 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC และใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่มีกำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์และ 160 กิโลวัตต์ ตามลำดับ
JAC เป็นอีกหนึ่งบริษัทจีนที่มีความโดดเด่นในด้านการส่งออกรถกระบะ โดยในปี 2566 บริษัทสามารถขายรถกระบะได้ทั้งหมด 55,000 คัน ซึ่งมากกว่า 42,000 คันเป็นรถที่ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ถือเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะในหลายประเทศ อาทิ เม็กซิโก เปรู และคาซัคสถาน นอกจากนี้ ยอดขายในตลาดในประเทศก็เติบโตขึ้นถึง 16.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมในตลาดรถกระบะจีนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ความสำเร็จของ JAC ในการผลิตรถกระบะครบ 300,000 คัน และการขยายตลาดส่งออกไปยัง 132 ประเทศนั้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของผู้ผลิตรถกระบะจีนในการแข่งขันในตลาดโลก นอกจากนี้ การเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่น T9 ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะทำให้ JAC สามารถยกระดับความสำเร็จในตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น
Cr.carnewschina