fbpx
เผยความลับที่คุณอาจถูกช่างซ่อมรถยนต์หลอกหากไร้ประสบการณ์

เผยความลับที่คุณอาจถูกช่างซ่อมรถยนต์หลอกหากไร้ประสบการณ์

คุณเป็นหนึ่งในคนใช้รถที่ไว้ใจและเชื่อสิ่งที่ช่างบอกอย่างเต็มที่เลยหรือเปล่า? มันจะดีสำหรับคุณถ้าคุณได้เจอกับช่างมืออาชีพที่น่าเชื่อถือและใส่ใจรถของคุณจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่ใช่ช่างทุกคนที่จะรับผิดชอบและซื่อสัตย์กับลูกค้า มีหลายสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้คุณรู้เพื่อที่พวกเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากคุณเมื่อคุณขับรถเข้ามาที่อู่ของเขา

1.คุณต้องเปลี่ยนผ้าเบรกแล้วนะ
หลายคนไม่สามารถเพิกเฉยได้กับเสียงแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับเบรกของรถยนต์ คนส่วนใหญ่จะจิตตกและรีบนำรถไปซ่อมทันที สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของเสียงเหล่านั้นคือสนิมบนผ้าเบรก โชคดีที่สนิมเหล่านี้ถูกกำจัดออกได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองโดยการใช้แปลงขัดออก การขูดออก หรือใช้ลมเป่า

อู่ส่วนใหญ่พร้อมให้บริการนี้ในราคาไม่สูง น่าเศร้าที่ไม่ใช่ช่างทุกคนที่พร้อมจะบอกคุณว่าปัญหาก็คือแค่คราบสนิม พวกเขาจะแจ้งคุณว่าคุณต้องเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ทั้งหมด ให้ระวังและหากรู้สึกเคลือบแคลงในการวิเคราะห์อาการนี้ควรปรึกษาช่างคนอื่นจะดีกว่า หากช่างบอกให้คุณเปลี่ยนผ้าเบรกที่สึกเพียงเล็กน้อย อย่าหลงกล ประเด็นของเรื่องเบรกคือ คนเรามีความคิดว่าปลอดภัยไว้ก่อน และช่างก็ใช้จุดออ่นเรื่องนี้เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า

2.คุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว
เคยได้ยินช่างบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณหมดสนิทแล้วหรือปล่าว บางกรณีเป็นเรื่องจริง ศูนย์บริการรถยนต์บางแห่งพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แต่ความจริงก็คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดไม่ได้มาจากตัวแบตเตอรี่ แต่มาจากสายต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับมัน จุดที่สายต่างๆ มาเชื่อมต่อได้รับความเสียหายจากการกัดกร่อน เป็นผลให้แบตเตอรี่ไม่สามารถให้พลังไฟกับรถยนต์ได้มากเท่ากันหน้านี้

บางคนแก้ไขปัญหานี้ด้วยการใช้โค้ก พวกเขาเทมันไปที่จุดต่างๆ ที่มีสายไฟเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ และโค้กจะกำจัดการกัดกร่อนออกไป สิ่งสำคัญที่ควรรู้อีกอย่างคือ ยิ่งเบตเอตรี่วางอยู่ในร้านนานเท่าไหร่มันก็เสื่อคุณภาพได้มากลงเท่านั้น เมื่อคุณตัดสินใจซื้อเบตเตอรี่ใหม่ให้ขอดูวันที่ผลิต คุณควรเลือกอันที่มีอายุน้อยกว่า 1 เดือนมิฉะนั้นคุณอาจต้องเปลี่ยนมันเร็วกว่าที่ควร

3.คุณต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เร็วที่สุดเลย
หลายคนอาจเคยได้ยินจากช่างมาว่าคุณต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กม. อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ระบุว่า ช่วงแรกสุดที่ควรเริ่มกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องคือ หลังจากขับรถไปอย่างน้อย 12,000 กม. ยิ่งไปกว่านั้นมีความเห็นเกี่ยวกับช่างมืออาชีพว่าหากคุณเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 16,000 กม. มันก็ยังจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อรถของคุณ

แทนที่จะเปลี่ยนบ่อยเกินไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณน้ำมันเครื่องยังไม่หมด ช่างเครื่องบางคนอาจบอกคุณว่าน้ำมันเครื่องที่สกปรกอาจทำให้เครื่อยนต์เสียหายได้ แต่คุณควรจำไว้ว่าในรถยนต์ยุคใหม่นี้น้ำมันจะถูกเผาผลาญและระเหยออกในที่สุด ดังนั้นความสะอาดของน้ำมันไม่ได้มีผลมากนัก ในทางกลับกันระดับของน้ำมันเครื่องจะลดลง ดังนั้นคุณควรซื้อน้ำมันใหม่เป็นประจำและเติมเข้าไป

4.ตรวจเช็คฟรี
ศูนย์บริการรถยนต์บางแห่งดึงดูลูกค้าด้วยการตรวจเช็ครอบคันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเมื่อคุณได้รับข้อเสนอดังกล่าว คุณอาจคิดว่าของฟรีทำไมจะไม่ไปล่ะ แต่หลังจากคุณนำรถเข้ามาช่างมักจะบอกว่ามีปัญหามากมายซึ่งจะต้องรีบซ่อมทันที แต่หากคุณหลงกล คุณอาจเสียค่ายใช้จ่ายไปกับการซ่อมที่ไม่จำเป็น จะเป็นการดีกว่าเสมอที่คุณจะไปศูนย์บริการเฉพาะเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับรถของคุณ

บทความที่น่าสนใจ

Mercedes เตรียมเผย MBUX เวอร์ชั่นใหม่ที่ใช้ AI ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ดั่งมนุษย์ ในงาน CES 2024

Peng

เผยประโยชน์ของ “ซันรูฟ” ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้

idiot

ไส้กรองน้ำมันเครื่อง “ของแท้” กับ “ของเทียม” มีผลต่อเครื่องยนต์ อย่างไรกันแน่.?

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy