หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอคอยมาอย่างยาวนาน ในที่สุด All-New Land Rover Defender ออฟโรดระดับตำนานรุ่นใหม่หมด ก็ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Frankfurt Motor Show 2019
All-New Defender ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ D7x ซึ่งมีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่รุ่น Defender 110, รุ่นฐานล้อสั้น Defender 90 และรุ่น Commercial โดยรุ่นแรกจะออกจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้ามาพร้อมห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง ส่วนสองรุ่นหลังจะเข้ามาเสริมทัพในช่วงปลายปี 2020
ผู้ผลิตรถจากอังกฤษเคลมว่า Defender รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของ Land Rover เนื่องจากมีการรวมโครงสร้างใหม่เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมกับศตวรรษที่ 21
Defender รุ่นใหม่ ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงปรับปรุงโอเวอร์แฮงหน้าและหลังให้สั้นลง ซึ่งนั่นจะช่วยตัวรถให้ก้าวข้ามผ่านสิ่งกีดขวาง บนเส้นทางที่ยากลำบากได้ง่ายดายมากขึ้น
นอกจากรูปลักษณ์ที่ทันสมัยแล้ว Defender รุ่นใหม่ ยังแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็นลำตัวที่ดูบึกบึน และซุ้มล้อมีความเหลี่ยมสัน ขณะที่ไฟหน้า-ไฟท้ายนั้นเป็นแบบ LED ส่วนล้อจะมีให้เลือกมากถึง 12 แบบ ตั้งแต่ขนาด 18-22 นิ้ว และสีตัวถังที่มีให้เลือกทั้ง Tasman Blue, Pangea Green and Gondwana Stone, Fuji White, Eiger Grey, Santorini Black และ Indus Silver
ภายในห้องโดยสารนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างมาก เนื่องจากมีทั้งเรือนไมล์ดิจิตอล หน้าจอสัมผัสกลางคอนโซล เฮดอัพดิสเพลย์ที่ใช้เทคโนโลยี EVA 2.0 ซึ่งรองรับการอัพเดตแบบไร้สาย Software-Over-The-Air (SOTA) ขณะที่ปุ่มบนคอนโซลกลางถูกลดจำนวนให้น้องลง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ส่วนใหญ่มีปุ่มสำหรับควบคุมระบบอินโฟเทนเมนท์
ในสหรัฐอเมริกาจะมีขุมพลังให้เลือกทั้ง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร Mild-Hybrid เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร ทำอัตรเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที ทั้งสองเครื่องยนต์ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ZF แบบ 8 สปีด และเกียร์ทรานส์เฟอร์ 2 สปีด
All-New Land Rover Defender มีราจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 49,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.5 ล้านบาท