Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในแคลิฟอร์เนีย ที่ปัจจุบันมีมูลค่าทางการตลาดที่ 161 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนั้นก็แปลว่ามากกว่า Ford, General Motors และ Fiat Chrysler รวมกัน ซึ่งได้รับการประเมินมูลค่าเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นผลให้หุ้นของ Tesla ทะยานขึ้น 40% ในช่วงสองวันที่ผ่านมาและตอนนี้มีอัตราซื้อขาย ที่ 900 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า หุ้นของ Tesla ตอนนี้อาจจะกำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ ที่รอวันแตก ด้วยมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าตกใจ ล่าสุด Tesla เพิ่ง ประกาศผลกำไรไตรมาส 4 ของปี 2019 ซึ่งมีรายรับอยู่ที่ 7.38 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่มหาศาล
มูลค่าเหล่านี้ยังไม่รวมถึงโครงการของ Model 3 ที่เพิ่งจะเริ่มทำการผลิตในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในโรงงานใหม่ ที่ใช้เวลาสร้างเพียง 10 เดือน ซึ่งในขณะนี้การส่งมอบรถยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ขณะที่ยอดขายยังคงเป็นที่น่าพอใจในระดับดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Tesla Model Y crossover รุ่นใหม่จะเริ่มส่งมอบได้เร็วที่สุดเดือนนี้ เสริมทัพให้ Tesla แรงอย่างไม่หยุดยั้ง
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า Tesla เป็นผู้ริเริ่ม และ ปลุกกระแสรถยนต์ไฟฟ้า ให้เติบโตขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ และยังเป็นจุดเริ่มต้นให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ หันมาสนใจและโฟกัสในยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Tesla ถึงมีมูลค่ามากมายมหาศาลขนาดนี้ หวั่นก็แต่ค่ายรถที่ไม่ยอมปรับตัว น่าเป็นห่วงว่าจะถูกกระแสนี้กลืนกิน (Disruption) ไปอย่างน่าเสียดาย เปรียบเสมือนไดโนเสาร์ที่ถูกภูเขาไฟระเบิดจนตายหมดเกลี้ยง
ที่มา : carbuzz