ฮุนได มอเตอร์ ใช้เงินลงทุนราว 2 ล้านล้านวอนก่อสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 548,000 ตร.ม. ที่เมืองอุลซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยจะเริ่มก่อสร้างเต็มรูปแบบในไตรมาสใน 4 ปี 2023 และจะเริ่มการผลิตในไตรมาส 1 ปี 2026 ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 200,000 คันต่อปี
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้ถูกออกแบบให้คำนึงถึงผู้คนเป็นหลัก โดยใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแนวใหม่ในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่เหมาะสมกับพนักงานมากที่สุด โดยโรงงานเมืองอุลซานถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของฮุนไดในยุคพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะกลายกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์หลักแห่งอนาคต
“โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในเมืองอุลซาน คือจุดเริ่มต้นของอนาคตอันสดใสในอีก 50 ปีข้างหน้าและเป็นก้าวแรกของยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ร่วมแบ่งปันความฝันของเราในการเป็นบริษัทที่มีอายุยาวนานถึง 100 ปี ณ ที่แห่งนี้” จอง อึยซอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ความฝันในการสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดในอดีต ทำให้เมืองอุลซานกลายเป็นเมืองแห่งยานยนต์จวบจนปัจจุบัน และก็เช่นกัน ผมเชื่อมั่นว่าเมืองอุลซานจะกลายเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมการเดินทางรูปแบบใหม่และยืนอยู่แถวหน้าในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า โดยเริ่มต้นจากโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้”
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเมืองอุลซานของฮุนไดจะเป็นส่วนหนึ่งของไซต์งานขนาด 548,000 ตร.ม. โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 200,000 คันต่อปี ด้วยงบการลงทุนราว 2 ล้านล้านวอน (1.53 พันล้านดอลลาร์) โดยจะเริ่มการก่อสร้างเต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ของปีนี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2025 และเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2026 โดยกำหนดจะผลิตรถเอสยูวีไฟฟ้า Genesis ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับหรูของฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป เป็นรุ่นแรก
ฮุนได มอเตอร์วางแผนใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแบบใหม่ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมกลุ่มฮุนได มอเตอร์ ในสิงคโปร์ (HMGICS) ที่โรงงานเมืองอุลซานแห่งนี้ เพื่อรองรับการทำงานแห่งอนาคตและยกระดับความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพของพนักงาน
นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตของ HMGICS ประกอบด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์แปรผันตามความต้องการของงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำเพื่อให้โรงงานมีความเป็นกลางทางคาร์บอนและการรับรองมาตรฐาน RE100 (การใช้พลังงานหมุนเวียน 100%) รวมถึงการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมิตรต่อมนุษย์ เพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีความปลอดภัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนสร้างสถานที่ปฏิบัติงานที่ปลอดภัย รัดกุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม เช่น หุ่นยนต์ ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน การออกแบบพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อลบภาพจำของโรงงานที่ปิดทึบแบบเดิมๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงปรัชญาการผลิตรถยนต์รุ่นต่อไป ในฐานะแหล่งผลิตยานยนต์แห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสมบูรณ์