Mazda6e เสนอรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์หรูพร้อมตัวเลือกพลังงานสองรุ่น ฟีเจอร์เทคโนโลยีทันสมัย และราคาตั้งต้นที่ €45,000 เตรียมเปิดตัวในปี 2025
Mazda กำลังเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของยุโรปอย่างจริงจังด้วยการเปิดตัว Mazda6e รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์หรูในรูปแบบของเซดาน ที่นำเอาปรัชญาการออกแบบจากญี่ปุ่นมาผสมผสานกับเทคโนโลยี EV จากจีน โดยการเปิดตัวครั้งแรกในฐานะ EZ-6 ที่งาน Auto China ในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ได้รับชื่อใหม่เป็น Mazda6e และจะเปิดตัวในโชว์รูมยุโรปภายในกลางปี 2025 โดยตลาดสหราชอาณาจักร (UK) จะตามมาภายในปี 2026
การออกแบบญี่ปุ่นพบกับเทคโนโลยีจีน
Mazda6e เป็นการร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง Mazda และพันธมิตรจีนที่ร่วมงานมายาวนานกว่า 20 ปีอย่าง Changan Automobile โดยรถยนต์รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม EPA1 ของ Changan ซึ่งทาง Mazda เรียกว่า “Authentic Modern” ภายใต้แนวคิดการออกแบบ “Kodo Soul of Motion” ที่มีความทันสมัยและสอดคล้องกับลักษณะของรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์เซดานขนาดกลางนี้มีขนาดความยาว 4.92 เมตร ความกว้าง 1.89 เมตร และความสูง 1.48 เมตร โครงสร้างภายนอกมีความสวยงามและโดดเด่นด้วยประตูไร้กรอบ มือจับประตูที่ยืดหดได้ และสปอยเลอร์หลังที่ปรับได้อัตโนมัติ ขณะเดียวกันกระจังหน้าแบบส่องสว่างและไฟหน้า LED แบบเฉียบคมก็ช่วยเสริมลุคหรูหราในทุกมุมมอง พร้อมด้วยล้อขนาด 19 นิ้วแบบ Y-spoke ที่ดูทันสมัย
ตัวเลือกพลังงานสองรุ่น
สำหรับลูกค้าในยุโรป Mazda6e จะมีให้เลือกสองรุ่นพลังงาน โดยรุ่นมาตรฐาน Mazda6e 258 มาพร้อมกำลัง 190 kW (258 แรงม้า) และแบตเตอรี่ขนาด 68.8 kWh ให้ระยะทางการขับขี่ 479 กม. (297 ไมล์) รุ่นนี้สามารถชาร์จไฟได้ 80% ภายในเวลาเพียง 22 นาทีด้วยการชาร์จเร็ว 200 kW ขณะที่รุ่น Long Range หรือ Mazda6e 245 มีแบตเตอรี่ขนาด 80 kWh ที่ให้ระยะทาง 552 กม. (342 ไมล์) แม้กำลังจะลดลงเหลือ 180 kW (245 แรงม้า) แต่สามารถชาร์จได้เต็มในเวลา 45 นาที
ทั้งสองรุ่นยังคงมีสมรรถนะที่คล้ายกัน ด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาไม่เกิน 8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 175 กม./ชม. (ประมาณ 108 ไมล์/ชม.) โดยทั้งสองรุ่นยังสามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 1,500 กก. (ประมาณ 3,306 ปอนด์) ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ฟีเจอร์ภายในที่ชาญฉลาด
ภายในห้องโดยสาร Mazda6e มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย โดยมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้ว ระบบแสดงผลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว และจอแสดงผล AR ขนาด 50 นิ้วที่มีฟังก์ชั่นเสริมความสมจริง นอกจากนี้ยังรองรับการควบคุมด้วยเสียงและท่าทาง พร้อมระบบเสียง Sony 14 ลำโพงที่มอบประสบการณ์ฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม
ลูกค้าสามารถเลือกตกแต่งภายในได้ทั้งในระดับ ‘Takumi’ และ ‘Takumi Plus’ ซึ่งมีวัสดุหนังและการตกแต่งพื้นผิวที่แตกต่างกัน
การตั้งราคาที่แข่งขันได้และตำแหน่งในตลาด
Mazda6e จะเริ่มต้นที่ราคา €45,000 ในตลาดเยอรมนี ซึ่งเป็นราคาที่แข่งขันได้ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการตัดสินใจของ Mazda ที่จะเลิกจำหน่ายรุ่น MX-30 ในตลาดเยอรมนีและสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท
Mazda ตั้งเป้าให้การเปิดตัว Mazda6e เป็นการสานต่อนโยบาย ‘Joy of Driving’ พร้อมรักษาค่านิยมของมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่หรูหรา ระยะทางที่ใช้งานได้จริง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ Mazda6e เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของยุโรป
แม้ว่ารายละเอียดราคาในสหราชอาณาจักรยังไม่ได้ประกาศ แต่ Mazda6e ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าในยุโรปที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเซดานเมื่อมันเปิดตัวในโชว์รูมในปีหน้า
แหล่งที่มา : EV